Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
5/4/2024
ราคาทองคำพุ่งทะยานในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่ไปไม่สอดคล้องกัน จึงดันให้ราคาทองพุ่งทำลายสถิติใหม่เป็นรายวัน
ดอลลาร์เสื่อมค่าลงเรื่อยๆ และเสียงเรียกร้องให้ใช้เงินท้องถิ่น ส่งผลให้นักลงทุนหันมาสนับสนุนทองคำ ราคาจึงพุ่ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียก็มีส่วนดันราคาทองให้พุ่งสูงเช่นกัน
หลายปีมาแล้ว ที่รัสเซียกับจีนร่วมมือทางธุรกิจเพิ่มขึ้นโดยจับมือกันเป็นพันธมิตรเหนียวแน่น สองประเทศนี้มีจุดยืนเดียวกันคือ ไม่เอาดอลลาร์สหรัฐ โดยพยายามจะตัดขาดจากดอลลาร์ ไม่ยอมให้เป็นสกุลเงินหลักของโลกอีกต่อไป
แนวคิดถอยห่างจากดอลลาร์ มีจีนกับรัสเซียคอยผลักดันอยู่อย่างเข้มข้น ส่งผลให้นักลงทุนหันเหมาลงทุนในทองคำเพราะเชื่อว่า จะได้ผลตอบแทนที่เสถียรกว่า และในช่วงที่รัสเซียถูกตะวันตกคว่ำบาตร รัสเซียเองก็พยายามหาทางเลือกอื่นในการลงทุนเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด ทองจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับรัสเซียในการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
การถอยห่างจากดอลลาร์ บวกกับการสนับสนุนแนวคิดให้สกุลเงินท้องถิ่นผุดขึ้นมา โดยให้จีนหันมาค้าขายกับชาติอื่นโดยใช้หยวน ส่งผลให้ชาติอื่นเจริญรอยตาม ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนทำให้หลายชาติหันมาตุนทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมราคาของสกุลเงินตัวเองด้วย
การปรับเปลี่ยนระเบียบโลกก่อให้เกิดผลสะท้อนกลับมาหลายรายการ เช่นการคว่ำบาตรรัสเซียก็กระทบเศรษฐกิจยุโรปอย่างแรงเช่นกัน เพราะทำให้ยุโรปขาดน้ำมันและแหล่งพลังงานราคาถูกที่เคยได้จากรัสเซีย ความผันผวนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทองคำกลายเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุน
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า กลุ่มนายแบงค์ของวอลล์สตรีทและซิตี้ออฟลอนดอน สูญเสียการควบคุมราคาทองคำไปแล้ว กลายเป็นกลุ่ม BRICS ที่เข้าควบคุมราคาทองคำโลกแทนผ่านการซื้อที่เข้ามาอย่างเป็นรูปธรรม แน่นอนว่า ตอนนี้ พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หรือ อาจอยู่ในช่วงกลางของการทำสงครามการเงินรุนแรงที่สุด นับจากก่อนปี 1971 ที่สหรัฐโบกมือลาทองคำ และไม่ใช้ทองเป็นตัวหนุนดอลลาร์อีกต่อไป
บางคนก็มองว่า ราคาทองคำในไม่ช้าจะทะยานไปสู่ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปัจจุบัน เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/china-and-russia-push-golds-record-rally-towards-2280
© Copyright 2020, All Rights Reserved