19/6/2024

นักวิเคราะห์ยานยนต์ชั้นนำของ Bank of America กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ผู้ผลิตรถยนต์ดีทรอยต์ ไม่ว่าจะเป็นเจเนอรัลมอเตอร์ส ,ฟอร์ดมอเตอร์ และสเตลแลนติส ควรออกจากตลาดจีน “โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"

คำเตือนจากนักวิเคราะห์การวิจัยของ BofA Securities John Murphy เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและไม่เคยมีมาก่อนในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่จีนเพิ่มการผลิตรถยนต์อย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคชาวจีนตลอดจนการส่งออกทั่วโลก

เมอร์ฟี่ ซึ่งเคยถามเจนเนอรัล มอเตอร์ส เกี่ยวกับการออกจากตลาด กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ “D3” หรือDetroit 3 จำเป็นต้องหันกลับมามุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์หลักของตนและภูมิภาคที่ทำกำไรได้มากขึ้น

“ผมคิดว่าคุณต้องได้เห็น D3 ออกจากจีนโดยเร็วที่สุด” เขากล่าวเมื่อวันอังคารระหว่างงาน Automotive Press Association เพื่อหารือเกี่ยวกับรายงาน “Car Wars” ประจำปีของ BofA ในเมืองดีทรอยต์ เขากล่าวว่า "ตลาดจีนไม่ใช่แกนหลักของ GM, Ford หรือ Stellantis อีกต่อไป"

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับบริษัทผุ้ผลิตรถยนต์อเมริกันอย่างGMที่ต้องออกจากตลาดจีน แต่การผงาดขึ้นของผู้ผลิตรถยนต์ในจีนอย่าง BYD และGeelyได้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้น

ส่วนแบ่งการตลาดของ GM ในประเทศจีน รวมถึงการร่วมทุน ได้ลดลงจากประมาณ 15% ในช่วงปี 2015 เหลือ 8.6% ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ลดลงต่ำกว่า 9% นับตั้งแต่ปี 2003 กำไรของ GM จากการดำเนินงานก็ลดลงเช่นกัน ลดลง 78.5 % นับตั้งแต่จุดสูงสุดในปี 2014

ผู้บริหารของ GM กล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถพลิกการดำเนินงานและฟื้นส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ โดยส่วนใหญ่จะมีผลมาจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนสำหรับบริษัทในสหรัฐฯ ที่ดำเนินงานในจีน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าฝ่ายบริหารของเขาจะเพิ่มอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนเป็นสี่เท่า

ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์จำเป็นต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการทำธุรกิจของพวกเขาในจีน เมอร์ฟี่กล่าวว่าสิ่งนี้แตกต่างเล็กน้อยสำหรับผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ อย่างเทสลา

Murphy กล่าวว่า Tesla มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนประมาณ 17,000 เหรียญสหรัฐในส่วนประกอบ EV เมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์เพื่อช่วยเหลือบริษัทในตลาดจีน ทำให้บริษัทมี “พื้นที่ในการทำงานมากขึ้น"

IMCT News

ที่มา CNBC