ขอบคุณภาพจาก RT

8/4/2024

สหรัฐไม่ใช่เจ้าแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยีทางทหารและการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์แต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป  เพราะจีนและรัสเซียได้แซงหน้าสหรัฐไปแล้วในบางจุด จากการเปิดเผยของรองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตออสเตรเลียประจำสหรัฐ

คำกล่าวนี้มีขึ้นในช่วงที่ขีดเส้นตายใกล้เข้ามาแล้วในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สำหรับประธานาธิบดี โจ ไบเด้น ของสหรัฐ ที่จะต้องลงนามข้อตกลงซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อปีที่แล้ว ( 2023 ) ให้ออสเตรเลียและอังกฤษสามารถนำเข้าเทคโนโลยีทางทหารที่มีความอ่อนไหวของสหรัฐได้ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต

ข้อตกลงนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกลุ่ม AUKUS  หรือความเป็นหุ้นส่วนความมั่นคงไตรภาคีในภาคพื้นอินโดแปซิฟิก ระหว่างออสเตรเลีย อังกฤษ และสหรัฐ ที่ระบุให้อุตสาหกรรมทางทหารของทั้งสามประเทศเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ  ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารร่วมกันและผลิตอุปกรณ์ทางกองทัพให้มากขึ้น

เดิมที ข้อตกลงนี้ถูก สส.สหรัฐบางคนไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า อาจทำให้สายลับจีนล้วงความลับทางทหารของสหรัฐได้ง่ายขึ้น   แม้กระทั่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐก็อึดอัดใจ เพราะเห็นว่า ใบอนุญาตที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ก็ทำให้พันธมิตรของสหรัฐได้รับความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ อยู่แล้ว

แต่รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตออสเตรเลียประจำสหรัฐ กลับมองว่า ที่ผ่านมา สหรัฐไม่เคยยอมที่จะให้มีการแบ่งปันข้อมูลลับเทคโนโลยีทางทหารกับชาติพันธมิตร เพราะถือเป็นปฏิบัติการนอกตำรา และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ซึ่งตั้งเป้าจะทำให้โซเวียตแพ้ให้ได้  แต่ก็ต้องสงวนไว้ให้สหรัฐเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมทางทหารแต่เพียงผู้เดียวของโลก

สหรัฐยังส่งออกอาวุธต่างๆ ให้พันธมิตร แต่ความรู้ในการผลิตและเทคนิคต่างๆ ยังอยู่ในมือของสหรัฐ ไม่ยอมแบ่งปันให้ใคร  กลยุทธ์แบบนี้ใช้ได้ผลดีถ้าหากสหรัฐยังคงเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีทางทหาร  แต่ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมาหลังสงครามเย็น  อุตสาหกรรมทหารของสหรัฐมุ่งเน้นไปที่การผลิตฮาร์ดแวร์ เช่น เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์  แต่ในขณะเดียวกัน ชาติคู่อริก็เพิ่มศักยภาพขึ้นมาเทียบเคียงสหรัฐเช่นกัน

เทคโนโลยีทางทหารในยุคสงครามเย็นที่สหรัฐพัฒนาไว้ เกือบทั้งหมดได้ถูกแพร่ขยายไปแล้วในขณะนี้    รัสเซียกับจีนยังพัฒนาแซงหน้าสหรัฐไปในบางจุดด้วยซ้ำ  ดังนั้น จึงไม่ต้องกลัวว่า ความลับทางทหารจะตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม  การแบ่งปันข้อมูลเทคโนโลยีทางทหารที่มีความอ่อนไหว ยังจะช่วยให้สมาชิก AUKUS มีความก้าวหน้าทางทหารขึ้นมาพร้อมกันด้วยซ้ำ

By IMCTNews

อ้างอิงจาก https://www.rfa.org/english/news/pacific/aukus-defense-base-04052024130028.html