Thailand
สภาพัฒน์ฯ ชี้ไทยเผชิญความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์โลก 8 ด้าน พร้อมหาทางพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
ภายใต้หัวข้อ "พลิกความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ สร้างโอกาสประเทศไทย" ในงานประชุมประจำปี 67
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดการประชุมประจำปี 2567 ในหัวข้อ "พลิกความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ สร้างโอกาสประเทศไทย"
โดย นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. ได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่ส่งผลกระทบต่อไทยในหลากหลายด้าน ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน, สงครามเทคโนโลยี, การแยกห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐฯ-จีน, การแย่งชิงแรงงานทักษะสูง, วิกฤตผู้อพยพจากเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา, ความมั่นคงทางอาหาร, ความมั่นคงทางพลังงาน และการแย่งชิงทรัพยากรน้ำ
ซึ่งไทยจำเป็นต้องเร่งบริหารจัดการความท้าทายในด้านการค้าการลงทุน, เทคโนโลยี, แรงงานและทักษะ, รวมถึงความมั่นคงทางพลังงาน และหาทางปรับตัวใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด นอกจากนั้น การประชุมครั้งนี้ยังมีการเสวนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและนำเสนอแนวทางการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลกในมิติต่างๆ อีกด้วย #imctnews รายงาน
ที่มา: สภาพัฒน์ฯ https://fb.watch/uOhSpwWgiy/
อ่านเพิ่มเติมด้านล่าง
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ส่งผลต่อไทย ประกอบด้วย 8 ด้านสำคัญ ได้แก่
1. สงครามการค้า โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน
2. สงครามเทคโนโลยี ที่ขยายวงกว้างไปสู่หลายอุตสาหกรรม
3. การแยกห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิต
4. การแย่งชิงแรงงานทักษะสูง ทำให้เกิด Talent War
5. วิกฤตผู้อพยพจากความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา
6. ความมั่นคงทางอาหาร ที่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองและเศรษฐกิจ
7. ความมั่นคงทางพลังงาน ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในหลายพื้นที่
8. การแย่งชิงทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำโขง
นายดนุชายังระบุถึงความท้าทายที่ไทยต้องบริหารจัดการ ได้แก่ ด้านการค้าการลงทุน เทคโนโลยี แรงงานและทักษะ และความมั่นคงทางพลังงาน โดยเน้นย้ำว่าไทยต้องเร่งปรับตัวและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด
ในการประชุมยังมีการเสวนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒน์ฯ, ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช กรรมการสภาพัฒน์ฯ โดยนำเสนอมุมมองและแนวทางการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลกในมิติต่าง ๆ รวมถึงการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของประเทศไทย
การประชุมครั้งนี้มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้น เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนท่ามกลางความผันผวนของโลก
ในส่วนของการเสวนา ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒน์ฯ ได้นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกในภาพรวมที่ส่งผลต่อโลกและประเทศไทย พร้อมเสนอแนะการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ด้านนโยบายระหว่างประเทศที่เหมาะสม เพื่อรับมือกับความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยืดเยื้อ และการแสวงหาโอกาสจากการที่ประเทศต่าง ๆ พยายามหาพันธมิตรเพื่อสร้างสายสัมพันธ์และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ
ด้าน ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอแนวทางการรับมือผลกระทบจากมาตรการทางเศรษฐกิจและการกีดกันทางการค้าระหว่างขั้วอำนาจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้า การลงทุน และการส่งออกของไทย พร้อมเสนอแนวทางการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในตลาดโลก และการปรับตัวของภาคเอกชนเพื่อรับมือความผันผวนจากสถานการณ์ความขัดแย้งหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษาและอาจารย์สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอแนวทางการสร้างความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อสร้างความมั่นคงในภูมิภาค และท่าทีที่เหมาะสมของไทยในการรับมือสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทยในหลายด้าน เช่น ปัญหาแรงงาน และปัญหาอาชญากรรม
ส่วน รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช กรรมการสภาพัฒน์ฯ ได้นำเสนอผลจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหารของโลกและของไทย พร้อมเสนอแนวทางการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและการยกระดับความสามารถในการผลิตทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
การประชุมครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนของสังคมไทยได้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ และร่วมกันหาแนวทางในการรับมือและปรับตัว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านความท้าทายและคว้าโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางความผันผวนของโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
© Copyright 2020, All Rights Reserved