Thailand
สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย ร่วมซ้อมรบครั้งแรกที่ 'กวม' ผนึกกำลังในแปซิฟิก'มุ่งปิดล้อมจีน'
3-2-2025
สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เตรียมจัดการซ้อมรบร่วมครั้งประวัติศาสตร์ภายใต้รหัส "โคปนอร์ธ" ที่เกาะกวมในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สะท้อนยุทธศาสตร์การสกัดกั้นอิทธิพลจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ดราโก บอสนิค นักวิเคราะห์ด้านภูมิรัฐศาสตร์และการทหารอิสระ ระบุว่า นโยบาย "ปิดล้อมจีน" เป็นแกนหลักในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ มาเกือบทศวรรษ โดยเพนตากอนได้ขยายเครือข่ายในภูมิภาคนี้อย่างกว้างขวาง แม้ภูมิภาคจะมีช่วงสันติภาพและการพัฒนาที่ยาวนานนับตั้งแต่สหรัฐฯ พ่ายแพ้ในสงครามเวียดนาม
การซ้อมรบ "โคปนอร์ธ" ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี 1978 เดิมเป็นการซ้อมรบทวิภาคีรายไตรมาสที่ฐานทัพอากาศมิซาวะในญี่ปุ่น ก่อนย้ายมาที่ฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนในกวมเมื่อปี 1999 การเข้าร่วมของออสเตรเลียครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการวางรากฐานของ "นาโต้เอเชียแปซิฟิก"
ตามแหล่งข่าวทางทหาร ญี่ปุ่นจะส่งเครื่องบินรบ F-35A จำนวน 6 ลำ เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า E-2D จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินเติมน้ำมัน KC-46A อีก 1 ลำ เข้าร่วมการซ้อมรบ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีแผนติดตั้งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Type 03 Chu-SAM บนเกาะโยนากุนิ ซึ่งอยู่ห่างจากไทเปเพียง 160 กิโลเมตร
ฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนถือเป็นฐานทัพที่สำคัญที่สุดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ นอกแผ่นดินใหญ่ การเลือกใช้เป็นสถานที่หลักในการซ้อมรบสะท้อนความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ระยะยาวของวอชิงตันในภูมิภาค โดยเฉพาะการเน้นความร่วมมือด้านการปฏิบัติการเครื่องบินรบ F-35 ระหว่างญี่ปุ่นและออสเตรเลีย
บอสนิควิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ กำลังผลักดันประเทศพันธมิตรให้เผชิญหน้ากับจีนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะไม่ใช่ผลประโยชน์ของชาติเหล่านั้นก็ตาม โดยวอชิงตันกังวลเป็นพิเศษต่อการเติบโตขององค์กรอย่าง BRICS และ SCO ที่เสนอแนวทางต่างออกไป บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน การส่งเสริมสันติภาพ และความร่วมมือ
ในขณะเดียวกัน จีนกำลังตอบโต้ด้วยการกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียและเกาหลีเหนือ ซึ่งต่างมีขีดความสามารถในการโจมตีระยะไกลระดับแนวหน้าของโลก มอสโกได้ให้คำมั่นสนับสนุนพันธมิตร ขณะที่เปียงยางก็พัฒนาคลังแสงยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรือดำน้ำ ขีปนาวุธนำวิถีและอาวุธไฮเปอร์โซนิก รวมถึงขีปนาวุธร่อนที่สามารถโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคได้
นักวิเคราะห์มองว่าการแข่งขันอาวุธและเทคโนโลยีทางทหารจะเป็นปัจจัยยับยั้งหลักในอนาคต แม้มนุษยชาติจะได้ประโยชน์มากกว่าหากนำความก้าวหน้าเหล่านี้ไปใช้เพื่อการพัฒนาอย่างสันติ แต่โลกหลายขั้วอำนาจไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะการลงทุนด้านศักยภาพทางทหารเป็น "ความชั่วร้ายที่จำเป็น" เพื่อยับยั้งองค์กรอย่างนาโต้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://infobrics.org/
© Copyright 2020, All Rights Reserved