ทองคำทะยานจากแรงซื้อหนีความเสี่ยง หลังทรัมป์เพิ่มมาตรการภาษีนำเข้า ทองคำฟิวเจอร์ เม.ย.แตะ $2,923.10 ต่อออนซ์

13-3-2025

      Kitco News รายงานว่า ราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมุ่งหาสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดที่เกิดจากนโยบายการขึ้นภาษีที่ขยายวงกว้างของประธานาธิบดีทรัมป์ สัญญาทองคำเดือนเมษายนซึ่งมีการซื้อขายมากที่สุดพุ่งขึ้น 23.60 ดอลลาร์ หรือ 0.81% แตะระดับ 2,923.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 15.55 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกของสหรัฐฯ

  ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญกับความปั่นป่วนต่อเนื่อง เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ยกระดับความตึงเครียดทางการค้ากับหลายประเทศ ความวิตกของนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศแผนการเพิ่มภาษีนำเข้าโลหะจากแคนาดาเป็นสองเท่าเป็น 50% ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันพุธนี้ ตามที่ประธานาธิบดีได้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์

   "มาตรการทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเหล่านี้ได้เพิ่มความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิดการหดตัว" นักวิเคราะห์ตลาดที่กำลังติดตามสถานการณ์ได้ให้ข้อสังเกต นโยบายภาษีที่มุ่งเป้าไปยังจีน แคนาดา และเม็กซิโก แสดงให้เห็นถึงความผันผวนในการบังคับใช้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงเกือบทุกวันนับตั้งแต่มีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

     การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.52% สู่ระดับ 103.355 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.04% ในการซื้อขายก่อนหน้านี้

    นิตยสาร Investor's Business Daily รายงานว่า การประกาศของทรัมป์เกี่ยวกับภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดา รวมถึงแผนการเพิ่มภาษีรถยนต์นำเข้าที่จะเริ่มในวันที่ 2 เมษายน "ส่งผลให้ตลาดสั่นคลอน" อย่างไรก็ตาม สิ่งพิมพ์ดังกล่าวได้บันทึกว่ามีสัญญาณผ่อนคลายในช่วงท้ายวันหลังจากมีรายงานว่า "นายดัก ฟอร์ด นายกรัฐมนตรีรัฐออนแทรีโอ ได้ระงับแผนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 25% สำหรับไฟฟ้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว ขณะที่นายโฮเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูเหมือนจะเห็นชอบให้มีการเจรจาการค้า"

    ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลง แม้จะไม่รุนแรงเท่ากับการเทขายเมื่อวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์อุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 478.23 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ระดับ 41,433.48 จุด ต่อเนื่องจากการปรับตัวลดลงเมื่อวันจันทร์ซึ่งได้ผลักดันให้ดัชนีร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ดัชนี S&P 500 ลดลง 42.49 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 5,272.07 จุด ขณะที่ดัชนี NASDAQ แสดงความยืดหยุ่นมากกว่าโดยปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 32.23 จุด หรือ 0.18%

    หลังจากประสบกับการปรับตัวลดลงของราคาสองวันติดต่อกัน ทองคำได้ฟื้นแรงซื้อกลับมาและพบแรงสนับสนุนทางเทคนิค แม้ว่าราคาปัจจุบันจะยังต่ำกว่าระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,963.20 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ระดับราคาในปัจจุบันได้วางตำแหน่งให้โลหะมีค่าสามารถสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ได้ เนื่องจากนักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้นซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากที่สุด

เพื่อปกป้องเงินทุนท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/opinion/2025-03-11/gold-surges-safe-haven-appeal-amid-trump-tariff-escalation