EU-เกาหลีใต้ ร่วมจับตาความมั่นคงถึงระดับอวกาศ! หลัง ‘ทรัมป์’ พลิกระเบียบโลก

ขอบคุณภาพจาก CEIAS

13-3-2025

    เกาหลีใต้และสหภาพยุโรปได้จัดการเจรจาเกี่ยวกับความมั่นคงทางอวกาศเป็นครั้งแรก เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้นในอวกาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างความสอดคล้องด้านความปลอดภัยที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

    ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางการเชื่อมโยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและยุโรป รวมถึงภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้พันธมิตรเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเพื่อแบ่งปันภาระร่วมกัน

   Youn Jong-kwon อธิบดีกรมความมั่นคงระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้และ Marjolijn van Deelen ผู้แทนพิเศษด้านอวกาศของสหภาพยุโรป ได้จัดการเจรจาเกี่ยวกับความมั่นคงทางอวกาศที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงโซลระบุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 มี.ค.)

สำหรับการเจรจาดังกล่าวเป็นมาตรการติดตามต่อจากความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันทวิภาคีที่ลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ในการประชุมระหว่าง Cho Tae-yul รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้และ Josep Borrell ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง ณ กรุงโซล ซึ่งในระหว่างการเจรจา ฝ่ายเกาหลี "เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปและประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันอื่น ๆ เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่เพิ่มมากขึ้นในอวกาศ" กระทรวงการต่างประเทศในกรุงโซลกล่าวในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร

ด้านกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้และสำนักงานต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้จัดการประชุมหารืออินโด-แปซิฟิกระหว่างเกาหลี-เยอรมนีเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.) ที่กระทรวงต่างประเทศในกรุงโซล ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและความท้าทายในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และความเชื่อมโยงกับความมั่นคงของยุโรป ตลอดจนนโยบายสำคัญต่างๆ รวมถึงความมั่นคงทางไซเบอร์

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสำรวจมาตรการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป เพื่อร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ตามคำกล่าวของกระทรวงต่างประเทศในกรุงโซลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.)

สหภาพยุโรปและเกาหลีใต้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย เนื่องจากการเชื่อมโยงระหว่างความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและยุโรปมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำโดยการส่งทหารจำนวนมากของเกาหลีเหนือไปช่วยเหลือความพยายามทำสงครามของรัสเซียในยูเครน

ขณะทึ่พลวัตด้านความปลอดภัยของยุโรปกำลังเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากทรัมป์ได้ท้าทายข้อตกลงด้านความปลอดภัยร่วมกันของ NATO ซึ่งเป็นพันธมิตรยุโรปและอเมริกาเหนือที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ได้เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า สหรัฐฯ จะไม่ปกป้องประเทศสมาชิก NATO เว้นแต่จะจัดสรรผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศร้อยละ 5 เพื่อใช้ในด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งกระตุ้นให้ประเทศในยุโรปเรียกร้องให้เสริมกำลังด้านการป้องกันประเทศของตนเอง

ในแง่นี้ โซลมองว่ามูลค่าเชิงกลยุทธ์ของเกาหลีใต้ในฐานะผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ได้เติบโตขึ้นสำหรับประเทศในยุโรป

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ โชได้เดินทางเยือนยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2024 โดยเดินทางไปโปแลนด์และฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงเดินทางเยือนโปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ในรอบ 18 ปี ตามคำเชิญของรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์

โชได้พบกับราโดสลาฟ ซิคอร์สกี้ รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา (2025) และวลาดิสลาฟ โคซิเนียก-คามิส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม (2025) ตามด้วยการเยือนอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ ในวันเดียวกัน ซึ่งดูดาได้กล่าวชื่นชมการส่งมอบอาวุธที่เกาหลีใต้ผลิตได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับมาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO

การเจรจาระหว่างโชและซิคอร์สกี้เน้นที่ความมั่นคง โดยกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์เน้นย้ำว่า “การหารือส่วนใหญ่เน้นที่สถานการณ์ความมั่นคงในยุโรปและเอเชียแปซิฟิก” ขณะที่โซลกล่าวว่า โชและซิคอร์สกี้ “ตกลงที่จะเดินหน้าความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศอย่างไม่เปลี่ยนแปลงในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง” และ “เสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงข้ามภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายในกรอบความร่วมมือ NATO-IP4” อินโด-แปซิฟิก 4 หมายถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหุ้นส่วน 4 ของ NATO

ขณะเดียวกัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.) โชได้พบปะกับที่ปรึกษาทางการทูตของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล บอนน์ และฌอง-โนเอล บาร์โรต์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในกรุงปารีส ซึ่งกระทรวงต่างประเทศของโซลกล่าวเมื่อวันเสาร์ (8 มี.ค.) ว่า การหารือแยกกันสองครั้งของโชครอบคลุมถึงประเด็นด้านความมั่นคง รวมถึงการเจรจายุติสงครามในยูเครน ความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ และผลกระทบของรัฐบาลทรัมป์ต่อความมั่นคงของยุโรป

โซลกล่าวเสริมว่า “การเยือนฝรั่งเศสของรัฐมนตรีโชถือเป็นโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อระเบียบโลกใหม่”

เมื่อสิ้นสุดการเยือนยุโรปเมื่อวันศุกร์ (7 มี.ค.) โชกล่าวว่า “มีความสนใจอย่างมากในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับเกาหลีใต้”

“ด้วยการเข้ารับตำแหน่งของรัฐบาลทรัมป์ชุดที่สองและภูมิทัศน์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความต้องการความสามัคคีระหว่างประเทศที่มีแนวคิดเหมือนกันในอินโด-แปซิฟิกและยุโรปจึงเพิ่มมากขึ้น”

IMCT News

ที่มา https://asianews.network/south-korea-europe-draw-closer-as-us-president-trumps-return-reshapes-security-order/