ทรัมป์'ขู่ใช้กำลังทหาร - ปานามายอมถอย! ทบทวนสัมปทานท่าเรือจีน-ยุติข้อตกลงเส้นทางสายไหม
3-2-2025
Investing รายงานโดยอ้างรอยเตอร์ ว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลปานามาเร่งดำเนินมาตรการแก้ไขข้อห่วงกังวลของสหรัฐฯ กรณีบริษัทจีนได้รับสัมปทานดำเนินกิจการท่าเรือบริเวณใกล้คลองปานามา หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าวคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
แม้การหารือระหว่างสหรัฐฯ และปานามามีความคืบหน้าในประเด็นการโยกย้ายถิ่นฐานและความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินงานของคลองปานามา โดยประธานาธิบดีโฮเซ มูลิโน ย้ำชัดว่าอธิปไตยเหนือเส้นทางเดินเรือที่สำคัญอันดับสองของโลกเป็นประเด็นที่ไม่สามารถนำมาต่อรองได้
แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์มีความเห็นเบื้องต้นว่า อิทธิพลและการควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในพื้นที่คลองปานามาในปัจจุบันเป็นภัยคุกคามต่อคลอง" ขณะที่ทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหาร ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศพันธมิตรและคู่แข่งในละตินอเมริกา
ในการรับฟังความเห็นของวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าอาจพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรและจำกัดการเข้าเทียบท่าของเรือที่ชักธงปานามาในน่านน้ำสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากข้อพิพาทเรื่องคลอง
ภายหลังการหารือกับรูบิโอ ซึ่งประธานาธิบดีมูลิโนระบุว่าเป็นไปอย่างสุภาพและเป็นมิตร ได้มีการประกาศความเป็นไปได้ในการขยายบันทึกความเข้าใจที่ลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคมกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถส่งผู้อพยพชาวเวเนซุเอลา โคลอมเบีย และเอกวาดอร์ กลับประเทศผ่านทางอากาศยานในปานามาจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายในช่องแคบดาริเอน โดยสหรัฐฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
มูลิโนแสดงท่าทีพร้อมที่จะทบทวนการดำเนินธุรกิจของจีนในปานามา รวมถึงสัมปทาน 25 ปี ที่ต่ออายุให้กับบริษัท CK Hutchison Holdings ของฮ่องกงในปี 2564 สำหรับการดำเนินงานท่าเรือที่ทางเข้าทั้งสองด้านของคลอง โดยจะรอผลการตรวจสอบ ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวถูกนักการเมืองและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขยายอิทธิพลของจีนในปานามา ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาความเป็นกลางที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันในปี 2520
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปานามาและผู้เชี่ยวชาญบางส่วนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยชี้แจงว่าท่าเรือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานคลองปานามาและไม่เคยก่อปัญหาด้านความมั่นคง นอกจากนี้ มูลิโนยังระบุว่าข้อตกลงความร่วมมือระหว่างปานามากับจีนภายใต้โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ ซึ่งจีนใช้เป็นช่องทางขยายการลงทุนในปานามาในช่วงรัฐบาลก่อนหน้า จะไม่ได้รับการต่ออายุ และอาจพิจารณายุติข้อตกลงก่อนกำหนด พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการเจรจาแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่างๆ
การเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางครั้งแรกของรูบิโอในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เยือนภูมิภาคอเมริกากลางและแคริบเบียน โดยมีเป้าหมายฟื้นฟูบทบาททางการทูตของสหรัฐฯ ในซีกโลกตะวันตก และขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาการอพยพเข้าเมืองทางชายแดนใต้ของสหรัฐฯ อีกทั้งยังสะท้อนความพยายามของสหรัฐฯ ในการสกัดกั้นอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของจีนที่กำลังขยายตัวในละตินอเมริกา
ทั้งนี้ เมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ขู่ว่าจะเข้าควบคุมคลองปานามาซึ่งสหรัฐฯ สร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 และส่งมอบให้ปานามาในปี 2542 โดยอ้างว่าจีนเป็นผู้ดำเนินการคลอง อย่างไรก็ตาม จีนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการคลองและเคารพอธิปไตยและเอกราชของปานามาเหนือเส้นทางเดินเรือดังกล่าว โดยคลองปานามาอยู่ภายใต้การบริหารของสำนักงานบริหารคลองปานามา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลปานามา
รูบิโอ ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านจีนมาตลอดในช่วงที่ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจใช้ท่าเรือเหล่านี้ในการปิดคลองซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของสหรัฐฯ หากเกิดความขัดแย้งระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน นอกจากนี้ รูบิโอยังสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับประเด็นการย้ายถิ่นฐานในการทูตกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่ารูบิโอจะใช้การเยือนครั้งนี้เพื่อเจรจาให้ประเทศในภูมิภาคยอมรับเที่ยวบินส่งผู้อพยพกลับประเทศของสหรัฐฯ
---
IMCT NEWS