Thailand
สมรภูมิทะเลแดงเป็นแค่ตัวอย่าง! สหรัฐฯ ถอดบทเรียนจากฮูตี เตรียมรับมือศึกใหญ่จีน
1-2-2025
กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาเปิดเผยบทเรียนสำคัญจากปฏิบัติการในทะเลแดง ที่กลายเป็นสนามทดสอบภาคสนามจริงในการรับมือกับกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมน พร้อมยอมรับว่าเผชิญความท้าทายหนักหากต้องเข้าสู่ความขัดแย้งกับจีน ท่ามกลางช่องว่างด้านกำลังการผลิตและเทคโนโลยีที่ห่างกันมาก
เว็บไซต์ข่าวกลาโหม The War Zone (TWZ) รายงานว่า การปฏิบัติการในทะเลแดงตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา ทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ทดสอบขีดความสามารถทั้งระบบ แพลตฟอร์ม และบุคลากรในสถานการณ์จริง รวมถึงการสกัดกั้นขีปนาวุธและโดรนนับร้อยลำจากกลุ่มฮูตีตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 หลังกลุ่มดังกล่าวโจมตีเรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในน่านน้ำสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการค้ามูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และความช่วยเหลือมนุษยธรรมแก่ซูดานและเยเมน
เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ทั้งที่ประจำการและเกษียณอายุระบุว่า ประสบการณ์ในทะเลแดงช่วยพัฒนายุทธวิธีป้องกันภัยทางอากาศ และเป็น "การทดสอบสำคัญ" สำหรับกองเรือที่อาจต้องเผชิญหน้ากับจีนในอนาคต โดยเฉพาะการใช้จรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์ Advanced Precision Kill Weapon System II จากเครื่องบินรบ F-16 ยิงโดรนของฮูตี
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในทะเลแดงก็เผยจุดอ่อนของสหรัฐฯ เช่นกัน โดยเฉพาะการที่ต้องใช้อาวุธราคาแพงทำลายโดรนราคาถูก รวมถึงการสูญเสียโดรน MQ-9 Reaper มูลค่าลำละ 30 ล้านดอลลาร์ถึงสองลำภายในสัปดาห์เดียว และอุบัติเหตุที่เรือ USS Gettysburg ยิงเครื่องบิน F/A-18 Super Hornet ของตัวเองตกโดยไม่ตั้งใจ
ที่น่ากังวลคือ รายงานลับของกองทัพเรือสหรัฐฯ ปี 2023 ที่รั่วไหลระบุว่า จีนซึ่งมีกองเรือใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังการผลิตเรือรบมากกว่าสหรัฐฯ ถึง 232 เท่า และช่องว่างนี้ยังขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ จีนยังพัฒนาขีปนาวุธและโดรนล้ำสมัย พร้อมแผนใช้เรือจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก Type 076 เป็น "เรือบรรทุกโดรน"
แม้สหรัฐฯ จะปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้วิเคราะห์ข้อมูลการรบได้เร็วขึ้น แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าไม่ควรประมาท เพราะกองทัพจีนมีขีดความสามารถเหนือกว่ากลุ่มฮูตีมาก ดังที่ศาสตราจารย์เจมส์ โฮล์มส์ จากวิทยาลัยสงครามทางเรือระบุว่า "เราอาจแพ้ได้ และผมคิดว่าโอกาสที่จีนจะชนะมีสูงกว่า"
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved