แม้แต่ จนท.เพนตากอน ก็ยังใช้ DeepSeek!

ขอบคุณภาพจาก Tech in Asia

1-2-2025

      Bloomberg รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ดาวน์โหลด DeepSeek ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของจีนรุ่นแรกๆ ลงบนเวิร์กสเตชันตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว (2024) แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะได้ดำเนินการปิดกั้นการใช้งานแอปดังกล่าว แต่ก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น หลังจากที่แอปดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อไม่นานมานี้

     เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา (ม.ค.2025) DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพของจีนได้เปิดตัวโมเดล AI โอเพนซอร์สตัวล่าสุดที่ชื่อว่า R1 ซึ่งผู้สร้างอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ชั้นนำจากนักพัฒนาของสหรัฐฯ ในบางกรณี รวมถึง o1 ของ OpenAI

     ความสามารถในการเข้าถึงของโมเดลดังกล่าว ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดและรันบนเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ฟรี ได้จุดชนวนให้ชุมชนโอเพนซอร์สเกิดความคึกคัก และกระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ม.ค.)

      ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านระบบการป้องกันประเทศ (DISA) ซึ่งเป็นผู้ดูแลเครือข่ายไอทีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ DeepSeek เมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ผ่านมา (28 ม.ค.) เนื่องจากพนักงานกระทรวงกลาโหมหลายคนใช้แชทบอท AI รุ่นล่าสุดของ DeepSeek อย่างน้อย 2 วัน

      ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของ DISA กำลังประเมินขอบเขตการใช้งาน DeepSeek โดยตรงของพนักงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เมื่อเข้าถึงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทหรือแอปยอดนิยมบน Apple App Store และ Google Play นโยบายความเป็นส่วนตัวของ DeepSeek ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีนและควบคุมภายใต้กฎหมายจีน

     แม้จะมีข้อจำกัด แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมหลายพันคนยังคงใช้ AI ที่ได้รับการฝึกอบรมในจีนผ่านแพลตฟอร์มเว็บที่ได้รับอนุญาต Ask Sage ซึ่งให้การเข้าถึงโมเดลต่างๆ รวมถึง DeepSeek ที่โฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ของตนเองในสหรัฐฯ

     ขณะที่ทหารสหรัฐฯ บางคนดาวน์โหลด DeepSeek เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ลงในเวิร์กสเตชันของตน ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 ตามแหล่งข่าวของ Bloomberg ซึ่งในเวลานั้น ทีมรักษาความปลอดภัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การเชื่อมต่อกับจีนนั้น "ไม่ชัดเจน" และการดาวน์โหลดดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดข้อกังวลในทันที

     ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน DeepSeek ทำให้กองทัพบกสหรัฐฯ ค้นหาและลบโค้ดจากแชทบอตที่มีต้นกำเนิดจากจีนบนเครื่องของพนักงาน ขณะที่กองทัพเรือได้ห้ามใช้ DeepSeek โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของโมเดลดังกล่าว แต่กองทัพอากาศไม่ได้ออกแนวทางเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับ DeepSeek แต่ห้ามใช้ข้อมูลสาธารณะที่ละเอียดอ่อนในระบบ AI เชิงสร้างสรรค์เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุมัติอย่างเหมาะสม

     ด้านแซม อัลท์แมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ยอมรับว่า DeepSeek R1 เป็น "โมเดลที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแง่ของสิ่งที่พวกเขาสามารถส่งมอบได้ในราคาที่เหมาะสม" หลังสตาร์ทอัพจีนรายดังกล่าว อ้างว่าได้พัฒนาโมเดล AI ที่มีการแข่งขันสูงโดยไม่ต้องเข้าถึงชิปล้ำสมัยของสหรัฐฯ ด้วยราคาเพียง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น

      ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้การพัฒนา AI เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดสำหรับรัฐบาลของเขา เรียกการเปิดตัว DeepSeek ว่าเป็น "เสียงปลุก" สำหรับอุตสาหกรรม AI ของอเมริกา หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Stargate ซึ่งเป็นโครงการที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้เป็นแกนหลักสำหรับโครงการ AI ในอนาคต โดยมีเป้าหมายการลงทุนสูงถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยกัน

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/611956-pentagon-using-deepseek-ai/