ทรัมป์'เผชิญสมรภูมิใหม่ในละตินอเมริกา ปะทะจีน-รัสเซีย-อิหร่าน  รุกคืบขยายอิทธิพลท้าทายสหรัฐฯ

3-2-2025

      ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญความท้าทายในละตินอเมริกาเพียงไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง หลังเกิดความขัดแย้งกับโคลอมเบียในประเด็นการส่งผู้อพยพกลับประเทศ และการขู่ยึดคลองปานามา ท่ามกลางการแข่งขันช่วงชิงอิทธิพลกับจีน รัสเซีย และอิหร่านในภูมิภาคนี้

    ความตึงเครียดเริ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบียปฏิเสธเครื่องบินทหารสหรัฐฯ ที่บรรทุกพลเมืองถูกเนรเทศ ก่อนทรัมป์จะขู่ขึ้นภาษี ส่งผลให้โคลอมเบียต้องยอมรับเงื่อนไขทั้งหมด ขณะที่ปานามาแสดงท่าทีต่อต้านหลังทรัมป์ขู่ยึดคลองปานามาคืน โดยประธานาธิบดีโฮเซ ราอุล มูลิโน ยืนยันว่าคลองปานามาเป็นและจะเป็นของปานามาตลอดไป

    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ซึ่งมีเชื้อสายฮิสแปนิก เลือกอเมริกากลางและแคริบเบียนเป็นจุดหมายแรกในการเยือน สะท้อนความสำคัญของภูมิภาคนี้ต่อนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่การปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดและการประกาศให้กลุ่มค้ายาเม็กซิโกเป็นองค์กรก่อการร้าย อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค

    ฮวน คาร์ลอส ปินซอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมโคลอมเบีย มองว่าละตินอเมริกากำลังกลายเป็น "กระดานหมากรุก" ของมหาอำนาจโลก โดยจีนทุ่มทรัพยากรสร้างอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ล่าสุดสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ที่ชานเคย์ในเปรู ขณะที่รัสเซียขยายอิทธิพลทางวัฒนธรรมในเมืองสำคัญอย่างเม็กซิโกซิตี้ และอิหร่านเพิ่มบทบาทในเวเนซุเอลาและโบลิเวีย

    แม้สหรัฐฯ จะมองว่าประเทศในภูมิภาคบางส่วนเป็นพันธมิตรใกล้ชิด แต่เริ่มมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลง อย่างกรณีชิลีที่เสนอกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับจีน และปานามาที่ยกเลิกการรับรองไต้หวันในปี 2017 พลเอกลอร่า ริชาร์ดสัน อดีตผู้บัญชาการกองกำลังภาคใต้สหรัฐฯ เตือนว่าจีนเข้าใจดีว่าอำนาจทางเศรษฐกิจคือรากฐานสู่อำนาจทางทหารระดับโลก

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.newsweek.com/donald-trump-latin-america-china-russia-iran-2023448