Thailand
'วาทกรรมคริปโต'ทรัมป์' เกมการเมือง-ผลประโยชน์ซิลิคอนวัลเลย์ มากกว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ?
3-2-2025
กระแสความนิยมในสกุลเงินดิจิทัลที่นำโดยทำเนียบขาวกำลังสร้างความตื่นตัวในหมู่นักลงทุน หลังการรั่วไหลของแผน DOGE สำหรับBitcoin และการประกาศอนุมัติให้ธนาคารและวอลล์สตรีทเพิ่มการใช้คริปโตของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่เป็นเพียงการแสดงทางการเมืองมากกว่าทางออกของปัญหาเศรษฐกิจ
อัชราฟ ปาเทล นักวิจัยจากสถาบันเพื่อการสนทนาระดับโลกของแอฟริกาใต้ วิเคราะห์ว่า ความหลงใหลในBitcoinและสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลทรัมป์สะท้อนสองประเด็นหลัก คือ การตอบสนองต่อผู้สนับสนุนในซิลิคอนวัลเลย์อย่างอีลอน มัสก์และปีเตอร์ เทียล และการผลักดันอุดมการณ์เสรีนิยมในการยกเลิกการควบคุมการเงินดิจิทัล
"สกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถแทนที่สกุลเงินปกติได้ เพราะระบบการเงินการค้าโลกยังต้องพึ่งพาธนาคารกลาง" ปาเทลชี้ให้เห็นว่า อนาคตจะเป็นของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งกำลังได้รับการพัฒนามาตรฐานการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ ส่วนคริปโตจะเป็นเพียงตลาดรองในระยะยาว
แม้จะมีกระแสตื่นตัวจากนักลงทุนโดยเฉพาะในซิลิคอนวัลเลย์ แต่ปาเทลเตือนว่าหากเกิดวิกฤต มีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะช่วยเหลือผู้บริโภคได้ สะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นประเด็นด้านนโยบายและกฎระเบียบมากกว่าสิ่งอื่น โดยชี้ให้เห็นปัญหาการเติบโตของตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตและการทุจริตที่เกิดขึ้นแม้ในยุครัฐบาลไบเดน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า "ปัญหาอันดับหนึ่ง" ของสหรัฐฯ คือความสัมพันธ์ทางการค้าที่ไม่สมดุลกับประเทศคู่ค้า ซึ่งนำไปสู่การลดการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการสูญเสียงานจำนวนมากจากการแข่งขันกับประเทศกำลังพัฒนา การใช้มาตรการภาษีเป็นเพียงทางออกระยะสั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน
แม้แต่พระราชบัญญัติลดเงินเฟ้อของไบเดนที่มุ่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมก็ยังให้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย ปาเทลเสนอว่าทรัมป์จำเป็นต้องแก้ไขนโยบายอุตสาหกรรม นวัตกรรม และกฎระเบียบภายในประเทศก่อน จึงจะสามารถแข่งขันกับประเทศตะวันออกได้ ขณะที่บทบาทของสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในการค้าระหว่างประเทศ ไม่สามารถเป็นปาฏิหาริย์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการค้าอย่างที่รัฐบาลทรัมป์คาดหวัง
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved