ส่องเศรษฐกิจไทยปี 68 เสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐฯ -จีน กระทบส่งออก-ท่องเที่ยว NPL พุ่ง
11-1-2025
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตช้าลงกว่าปี 2567 เล็กน้อย ท่ามกลางความเสี่ยงสำคัญจากสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และภาคการผลิตไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว
โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 อยู่ที่ 37.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 35.6 ล้านคนในปี 2567 แต่แรงส่งจากการท่องเที่ยวต่อ GDP เริ่มลดลงหลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ระดับก่อนโควิด ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวจากกำลังซื้อที่ลดลงและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะส่งผลบวกต่อการใช้จ่ายของครัวเรือนราว 0.2-0.3% ของ GDP
ด้านการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2568 มีแรงหนุนจากฐานที่ต่ำและการเบิกจ่ายต่อเนื่อง โดยกรอบงบลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น 7.8% และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นราว 2.0% จากปีก่อนหน้า คาดอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสำหรับปีงบประมาณ 2568 จะอยู่ที่ 75-80% สูงกว่า 65% ในปี 2567
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับมูลค่าโครงการลงทุนจากต่างประเทศที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนสูงโดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่อาจล่าช้าออกไปจากภาวะตลาดโลกที่เผชิญอุปสงค์ลดลงท่ามกลางอุปทานสูง
ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือ ความเสี่ยงที่ไทยจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารอบใหม่ เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งใน 15 ประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าด้วยสูงสุด ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งออกไทยในปี 2568 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่ราว 2.5% โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มที่ไทยได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของจีนมายังไทยในสงครามการค้ารอบแรก อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โซลาร์เซลล์ และยางรถยนต์
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2568 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ราว 0.7% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง ลงมาอยู่ที่ราว 1.75% ณ สิ้นปี 2568
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทย คาดว่าจะเติบโตในระดับต่ำที่ประมาณ 0.6% ในปี 2568 แม้จะดีขึ้นจากที่หดตัว 1.8% ในปี 2567 แต่ยังต่ำกว่าอัตราการเติบโตของ GDP เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อที่มีแนวโน้มด้อยลง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ยังเผชิญข้อจำกัดในการฟื้นตัว
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า อุตสาหกรรมไทยในปี 2568 จะฟื้นตัวแตกต่างกัน โดยกลุ่มที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพ ส่วนกลุ่มที่จะขยายตัวชะลอลง ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และค้าปลีก ขณะที่กลุ่มที่มีแนวโน้มหดตัว ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยและรถยนต์
---
IMCT NEWS