จีนร่วมสอบสวนสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำภาคเหนือของไทย

จีนพร้อมร่วมสอบสวนปัญหาสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำภาคเหนือของไทย หลังพบความเชื่อมโยงกับเหมืองแร่จีนในเมียนมาร์
10-6-2025
สถานทูตจีนประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ว่ากำลัง "ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" หลังจากมีรายงานว่ามลพิษโลหะหนักในแม่น้ำทางภาคเหนือของไทยอาจเชื่อมโยงกับกิจกรรมเหมืองแร่ของจีนในประเทศเมียนมาร์ที่อยู่ติดกัน
แถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่ผ่านบัญชีสื่อสังคมออนไลน์อย่างเป็นทางการของสถานทูตระบุว่า "จีนกำลังติดตามรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์มลพิษโลหะหนักในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขงในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เราได้รับทราบรายงานการทดสอบล่าสุดที่รัฐบาลไทยและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเผยแพร่"
สถานทูตจีนเสนอแนะให้ไทยและเมียนมาร์ร่วมมือกันหารือและจัดทำการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าจีน "เต็มใจที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด" กับทุกประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อปกป้องระบบนิเวศและคุณภาพน้ำ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อบริษัทใดเป็นการเฉพาะ แต่แถลงการณ์ย้ำว่า "จีนกำหนดให้บริษัทจีนในต่างประเทศต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศเจ้าบ้านและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กรมควบคุมมลพิษของไทยเปิดเผยว่าตัวอย่างตะกอนที่เก็บจากแม่น้ำทางภาคเหนือของประเทศพบโลหะหนักในระดับที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการดำเนินการเหมืองแร่ที่อยู่ต้นน้ำ โดยพบการปนเปื้อนในระดับสูงสุดที่แม่น้ำสายและแม่น้ำกก โดยเฉพาะระดับตะกั่วในแม่น้ำกกพบว่าสูงมากบริเวณใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาร์ในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
แม้ว่าโลหะอื่นๆ เช่น ปรอท แคดเมียม และทองแดง จะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่ระดับสารหนูในแม่น้ำบางสายตามแนวชายแดนกลับพบว่าสูงเกินขีดจำกัดถึง 40 เท่าในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว กรมควบคุมมลพิษระบุว่านี่เป็นปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน โดยครั้งแรกที่ระดับสารหนูเกินขีดจำกัดปลอดภัยที่ 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตรคือเมื่อเดือนธันวาคม 2566
สื่อไทยหลายแห่งได้รายงานว่าปัญหานี้เชื่อมโยงกับการดำเนินงานของบริษัทเหมืองแร่จีน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นได้รายงานคำให้สัมภาษณ์ของเพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ของกลุ่มกดดันด้านสิ่งแวดล้อม International Rivers ซึ่งกล่าวโทษบริษัทจีนที่ได้รับสัมปทานการทำเหมืองในพื้นที่ที่มักอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏ โดยไม่ได้ปรึกษาหารือกับชุมชนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำ
"ของเสียที่เป็นพิษจากเหมืองเหล่านี้ไหลลงสู่แม่น้ำโดยตรงและสะสมอยู่ในผัก ปลา ดิน และในที่สุดก็สะสมอยู่ในตัวผู้คน" เพียรพรให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประชาชนราว 1,000 คนในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายได้รวมตัวชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ยุติการทำเหมืองข้ามพรมแดน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและเมียนมาร์ รวมถึงกลุ่มกบฏที่ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐฉาน ดำเนินการเพื่อยุติกิจกรรมการทำเหมืองทองคำ
รัฐฉานของเมียนมาร์ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการทำเหมืองที่สำคัญ โดยเฉพาะเหมืองทองคำ ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดส่งออกทรัพยากรแร่ที่สำคัญของเมียนมาร์มาอย่างยาวนาน โดยมีบริษัทจีนจำนวนมากดำเนินการในภูมิภาคนี้เพื่อขุดทองคำ แร่ธาตุหายาก และแร่ธาตุมีค่าอื่นๆ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sc.mp/1a2z6?utm_source=copy-link&utm_campaign=3313724&utm_medium=share_widget
Photo: Earth Thailand