ขอบคุณภาพจาก Xinhua
13.07.2024
รายงานจาก Global Energy Monitor ในสหรัฐ ระบุว่า จีนครองสัดส่วนเกือบสองในสามของโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างทั่วโลก ความสามารถในการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
การก้าวกระโดดของจีนทำให้เป้าหมายระดับโลกในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 3 เท่า ก่อนสิ้นปี 2030 อยู่ไกล้แค่เอื้อม แม้จะไม่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพิ่มมาเลยก็ตาม
จีนมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายในการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ 1,200 กิกะวัตต์ ที่เดิมทีเคยตั้งไว้ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2030 แต่กลับกลายเป็นว่า จะแล้วเสร็จในเดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 6 ปี จากรายงานของกลุ่มวิจัยด้านพลังงานหมุนเวียน Climate Energy Finance ในออสเตรเลีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิจัยจาก Global Energy Monitor (GEM) กล่าวว่า ความคึกคักของพลังงานหมุนเวียนยังคงเป็นสิ่งท้าทายสำหรับประเทศจีนที่พลังงานไฟฟ้าได้มาจากถ่านหินเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องพัฒนาสายส่งไฟฟ้าให้ส่งได้เร็วขึ้น
การเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ ยังช่วยผลักดันให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ตามการวิเคราะห์ของเว็บไซต์ด้านพลังงาน Carbon Brief
จีนผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินได้ 53% ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขนี้ยังอยู่ที่ 60% ขณะที่ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ที่ 44% บ่งชี้ว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีนเมื่อปีที่แล้ว อาจถึงจุดสูงสุดแล้ว และจะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากไปกว่านี้แล้ว หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จากผลการวิเคราะห์โดยนักวิจัยอาวุโสจากสถาบันนโยบายสังคมเอเชีย
พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มีเพิ่มขึ้นเป็น 12% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ไฟฟ้าจากพลังงานลมอยู่ที่ 11% เพราะจีนเพิ่มกำลังการผลิตในด้านนี้ ส่วนไฟฟ้าพลังงานน้ำอยู่ที่ 15% ไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ 5% และไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล 2%
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการผลิตไฟฟ้าลดลง 3.6% เมื่อเดือนพฤษภาคม การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดของจีน
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ 78% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยผลิตได้ 94 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh)
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในจีน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 83 TWh แม้จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตถึง 21% แต่ปริมาณพลังงานลมที่ได้กลับมีไม่มาก เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพลม
สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำเพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งในปีที่แล้ว ภาคพลังงานน้ำได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
By IMCT NEWS