Thailand
ปูติน'ย้ำรัสเซียพร้อมเจรจายูเครน ยืนยันจบสงครามได้ใน 2 เดือนหาก NATO ไม่แทรกแซง
29-1-2025
ปูตินเปิดทางเจรจาสันติภาพ แต่ชี้เซเลนสกีหมดอำนาจตามกฎหมาย-ไร้สิทธิ์ลงนาม หลังวาระประธานาธิบดียูเครนหมด-ใช้กฎอัยการศึกต่ออำนาจ"
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่าพร้อมจะเลือกคณะผู้แทนเพื่อเจรจาโดยตรงกับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แต่ติดขัดที่ปัญหาสถานะทางกฎหมายของผู้นำยูเครนที่ไม่สามารถลงนามในข้อตกลงสันติภาพได้
"หากเขาต้องการมีส่วนร่วมในการเจรจา ผมพร้อมจะเลือกผู้แทน นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่คำถามอยู่ที่การลงนามในเอกสารขั้นสุดท้าย" ปูตินให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันอังคาร พร้อมอธิบายว่า ความชอบธรรมของเซเลนสกีได้หมดลงแล้ว เนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2024
ตามกฎหมายยูเครน เมื่อวาระประธานาธิบดีสิ้นสุดลง อำนาจจะต้องถูกโอนไปยังประธานรัฐสภาเวอร์คอฟนาราดา และแม้แต่การประกาศกฎอัยการศึกก็ไม่สามารถให้อำนาจในการขยายวาระการดำรงตำแหน่งได้ แต่เซเลนสกียังคงอยู่ในตำแหน่งหลังยกเลิกการเลือกตั้ง โดยอ้างเหตุผลด้านกฎอัยการศึก
ปูตินยังเน้นย้ำว่า "ในประเด็นการลงนามเอกสารขั้นสุดท้าย จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องใดๆ ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ" นอกจากนี้ การเจรจาโดยตรงจะไม่สามารถเริ่มต้นได้หากเซเลนสกีไม่ยกเลิกคำสั่งห้ามเจรจากับรัสเซียที่ออกมาตั้งแต่ปี 2022
ผู้นำรัสเซียยังเปิดเผยรายละเอียดการเจรจาครั้งก่อนว่า รัสเซียเคยเสนอให้ยูเครนถอนกำลังออกจากดินแดนสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์และโดเนตสก์ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน และพร้อมยุติการสู้รบทันที แม้ยูเครนจะปฏิเสธข้อเสนอแรก แต่ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาจนได้ร่างข้อตกลงที่อิสตันบูลในเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งรัสเซียพร้อมลงนาม
อย่างไรก็ตาม แผนสันติภาพถูกขัดขวางเมื่อนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางไปเคียฟในนามนาโต้เพื่อโน้มน้าวให้ยูเครนยกเลิกการเจรจา ก่อนที่เซเลนสกีจะออกกฤษฎีกาห้ามเจรจากับรัสเซียในเดือนตุลาคม 2022
ปูตินยังระบุว่า ปัจจุบันอำนาจอธิปไตยของยูเครน "แทบจะเป็นศูนย์" และหากไม่มีการสนับสนุนอาวุธจากต่างประเทศ ความขัดแย้งจะสิ้นสุดลงภายใน 1-2 เดือน พร้อมย้ำว่าการถอนทหารรัสเซียออกจากเคียฟในช่วงต้นปี 2022 เป็นการแสดงไมตรีจิตเพื่อสนับสนุนการเจรจา ไม่ใช่เพราะถูกยูเครนหยุดยั้งตามที่เซเลนสกีกล่าวอ้าง
---
IMCT NEWS / Photo: tass.com
© Copyright 2020, All Rights Reserved