เลขาธิการยูเอ็นยกย่องอาเซียนเป็นสะพานสันติภาพ
ขอบคุณภาพจาก UN News - the United Nations
16/10/2024
อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ยกย่องอาเซียนว่าเป็น “ผู้สร้างสะพานและผู้ส่งสารสันติภาพ” หลังได้พูดคุยหารือกับผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (2024)
“เราเห็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น... ความวุ่นวายทางภูมิอากาศโจมตีประเทศต่างๆ... และความไม่เท่าเทียมที่ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้สัญญาทางสังคมพังทลาย ในบริบทที่ตึงเครียดนี้ อาเซียนเป็นผู้สร้างสะพานและผู้ส่งสารสันติภาพ” เลขาธิการยูเอ็นกล่าวระหว่างการแถลงข่าว พร้อมชื่นชมอาเซียนสำหรับบทบาทสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องในการคลี่คลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ของโลก ด้วยการให้ความสำคัญกับการเจรจาและการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติที่จัดขึ้นภายใต้การนำของลาว ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ได้ทบทวนความคืบหน้าของความสัมพันธ์อาเซียน-สหประชาชาติ และกำหนดแนวทางอนาคตในการนำความเป็นหุ้นส่วนอย่างครอบคลุมอาเซียน-สหประชาชาติไปปฏิบัติในปีต่อๆ ไป โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการเสริมซึ่งกันและกันระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ 2030 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างอาเซียนและสหประชาชาติในการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน-สหประชาชาติเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน และการยึดมั่นในหลักพหุภาคี
เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับหัวข้อของการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มการเชื่อมโยง ชุมชนระหว่างประเทศจะต้องสนับสนุนความพยายามของสหประชาชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างการเงินระหว่างประเทศ และเสริมว่า ระบบปัจจุบันไม่สามารถให้การสนับสนุนหรือตาข่ายความปลอดภัยที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องการได้
“ข้อตกลงเพื่ออนาคตเรียกร้องให้มีการปฏิรูปครั้งสำคัญและเรียกร้องให้ประเทศ G20 เป็นผู้นำในการกระตุ้น SDGs มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เพิ่มศักยภาพในการให้สินเชื่อของธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ธนาคารเหล่านี้สามารถขยายขอบเขตการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาและสภาพอากาศในระยะยาวที่เอื้อมถึงได้ในปริมาณมหาศาล” กูเตียร์เรสกล่าว พร้อมเสริมว่าเงินทุนนี้มีความจำเป็นสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในการดำเนินการตามวาระ 2030 และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกล่าวว่า ทุกประเทศจะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการด้านสภาพอากาศแห่งชาติฉบับใหม่ซึ่งสอดคล้องกับการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และเสริมว่ากลุ่ม G20 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปล่อยมลพิษมากที่สุดจะต้องเป็นผู้นำในเรื่องนี้
“รูปแบบความร่วมมือที่สร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ฉันยินดีต้อนรับความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่เป็นธรรมในอินโดนีเซียและเวียดนาม”
ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ คณะผู้แทนลาวเสนอให้จัดทำแผนปฏิบัติการอาเซียน-สหประชาชาติฉบับใหม่สำหรับปี 2026-2030 เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนอย่างครอบคลุมระหว่างอาเซียน-สหประชาชาติ และสนับสนุนการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 ซึ่งกำหนดให้รับรองในปี 2025 หลังสหประชาชาติยังคงเป็นหุ้นส่วนสำคัญรายหนึ่งของอาเซียน ที่มีประวัติความร่วมมือมายาวนาน โดยความสัมพันธ์อาเซียน-สหประชาชาติก่อตั้งขึ้นในปี 1977 และยกระดับเป็นหุ้นส่วนอย่างครอบคลุมในปี 2011
IMCT News
ที่มา https://asianews.network/un-chief-hails-asean-as-bridge-for-peace/