.

ทรัมป์ล้ม'หลักการ MAD' ทุ่ม 1.7 หมื่นล้าน$ สร้าง 'Iron Dome' หวั่นภัยขีปนาวุธจีน-รัสเซีย
28-1-2025
Pete Hegseth (พีท เฮกเซธ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คนใหม่ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารชุดใหญ่ด้านการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะการสร้างระบบ "Iron Dome" หรือ "โดมเหล็ก" ตามแบบอย่างอิสราเอล เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่มุ่งเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการยุติ "หลักการทำลายล้างซึ่งกันและกัน" หรือ MAD (Mutually Assured Destruction) ที่ใช้มานานกว่า 50 ปี เนื่องจากภัยคุกคามจากอาวุธความเร็วเหนือเสียงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีนและรัสเซีย ทำให้หลักการดังกล่าวไม่สามารถป้องกันการโจมตีครั้งแรกได้อีกต่อไป
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการสำหรับแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะการรับมือกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและยานร่อนความเร็วเหนือเสียง ทั้งยังขาดระบบป้องกันทางอากาศแบบเต็มรูปแบบบริเวณชายฝั่งตะวันออก พื้นที่ตอนกลางประเทศ และแนวทะเลแคริบเบียน
ระบบโดมเหล็กที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการสร้างแตกต่างจากระบบ Iron Dome ของอิสราเอล โดยระบบของอิสราเอลถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรับมือกับขีปนาวุธพิสัยใกล้จากฉนวนกาซา แต่ระบบที่สหรัฐฯ ต้องการคือระบบป้องกันทางอากาศแบบบูรณาการที่ครอบคลุมทั้งประเทศ
ปัจจุบัน อิสราเอลมีระบบป้องกันทางอากาศที่ประกอบด้วย Iron Dome, Iron Beam, David's Sling, Arrow 2 และ Arrow 3 พร้อมเรดาร์พิสัยไกล ซึ่งสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธในชั้นบรรยากาศนอกโลกได้ โดยได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเงินทุนบางส่วนจากสหรัฐฯ ผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง RTX Corporation (อดีต Raytheon), Boeing และ Lockheed
ล่าสุด RTX กำลังสร้างโรงงานใหม่ในรัฐอาร์คันซอเพื่อผลิตระบบสกัดกั้น SkyHunter ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนาจาก Tamir ที่ใช้ใน Iron Dome ให้กับนาวิกโยธินสหรัฐฯ ด้วยงบประมาณ 111 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2568 ครอบคลุมการจัดซื้อเครื่องยิง 12 เครื่องและขีปนาวุธ 242 ลูก
ขณะนี้ สหรัฐฯ มีระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดิน (GBI) ที่ฐานทัพในอลาสกาและแคลิฟอร์เนีย และกำลังพัฒนา "ระบบสกัดกั้นรุ่นต่อไป" มูลค่า 17,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมแผนติดตั้งระบบชั่วคราว 20 เครื่องภายในปี 2026 นอกจากนี้ยังมีระบบ THAAD ประจำการในเกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล โรมาเนีย และกวม รวมถึงระบบ AEGIS บนเรือรบกว่า 56 ลำ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าระบบป้องกันแบบผสมผสานในปัจจุบันของสหรัฐฯ อาจไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมาย "โดมเหล็กอเมริกา" เนื่องจากจีนและรัสเซียมีการพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีนที่มี "คลังแสงความเร็วเหนือเสียงที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก" ตามรายงานของหน่วยข่าวกรองกลาโหมสหรัฐฯ
การใช้ขีปนาวุธ Oreshnik พิสัยกลางของรัสเซียในยูเครน ซึ่งติดตั้งยานร่อนความเร็วเหนือเสียงแบบ Avangard พร้อมหัวรบจลนศาสตร์หลายหัว แสดงให้เห็นว่าระบบป้องกันขีปนาวุธต้องเผชิญความท้าทายทั้งจากอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไป
สตีเฟน ไบรเอน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายนโยบาย วิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาการใช้ระบบสกัดกั้นในอวกาศอย่าง Brilliant Pebbles อีกครั้ง พร้อมปรับปรุงความสามารถในการทำลายภัยคุกคามทั้งทางบกและทะเล รวมถึงเร่งพัฒนาการบูรณาการระบบป้องกันทางอากาศและการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อรับมือกับยุทธวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้น
"แม้จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่โครงการนี้มีความจำเป็นและขาดไม่ได้ ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะสรุปว่าสามารถทำลายสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย นั่นคือความเสี่ยงของการยึดมั่นในหลักการ MAD และเป็นเหตุผลที่ทั้งรัฐมนตรีเฮกเซธและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังเร่งดำเนินการสร้างโดมเหล็กของสหรัฐฯ" ไบรเอนกล่าวทิ้งท้าย
---
IMCT NEWS / Image: X Screengrab
ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/us-ending-mad-doctrine-to-build-an-iron-dome-air-defense-system/