ถอดรหัสปฏิบัติการท่าเรือจีนทั่วโลก ทรัมป์หวั่นใจ BRI-ชี้เป็นภัยคุกคามความมั่นคง

28-1-2025

จีนทุ่ม 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ 129 ท่าเรือ สหรัฐฯ หวั่นเส้นทางสายไหมใหม่ถูกใช้เป็นฐานทัพเรือ"

     ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนในการลงทุนท่าเรือทั่วโลกกำลังสร้างความกังวลให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตก โดยเฉพาะการเปิดท่าเรือน้ำลึกชานเคย์ในเปรู มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างการเดินทางไปประชุม G20 ที่ริโอเดอจาเนโรของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

    บริษัทCOSCO  รัฐวิสาหกิจด้านการขนส่งของจีน ได้ซื้อหุ้น 60% ในท่าเรือแห่งนี้ด้วยเงิน 1.6 พันล้านดอลลาร์ พร้อมสิทธิ์ผูกขาดการใช้งาน 60 ปี ไม่กี่วันหลังพิธีเปิด เรือลำแรกก็ออกเดินทางสู่เซี่ยงไฮ้พร้อมบรรทุกบลูเบอร์รี่ อะโวคาโด และแร่ธาตุ

    ท่าเรือชานเคย์เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์เส้นทางสายไหม (BRI)ทางทะเลศตวรรษที่ 21 ที่จีนทุ่มทุนพัฒนาท่าเรือในหลายประเทศ เพื่อเชื่อมโยงศูนย์กลางการผลิตกับพันธมิตรการค้าทั่วโลก แต่กลับสร้างความกังวลแก่ชาติตะวันตกถึงการขยายอิทธิพลเหนือเส้นทางเดินเรือ

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงขั้นกล่าวอ้างว่าจีน "ดำเนินการ" คลองปานามา และสหรัฐฯ จะยึดคืน แม้ความจริงจะมีเพียงบริษัทฮ่องกงที่ดูแลท่าเรือสองฝั่งคลองเท่านั้น

    ข้อมูลระบุว่าจีนลงทุนในท่าเรือ 129 แห่งทั่วโลกผ่านรัฐวิสาหกิจ มูลค่ารวม 11 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2010-2019 ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา โดยถือหุ้นใหญ่ใน 17 แห่ง ส่งผลให้กว่า 27% ของการค้าตู้คอนเทนเนอร์โลกต้องผ่านท่าเรือที่บริษัทจีนมีส่วนได้ส่วนเสีย

    การรุกคืบในละตินอเมริกาทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของภูมิภาค โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นต่อความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ทั้งถั่วเหลือง ข้าวโพด เนื้อวัว แร่เหล็ก ทองแดง และลิเธียมเกรดแบตเตอรี่

   ในบราซิล Portos do Paraná รัฐวิสาหกิจท่าเรือของรัฐปารานา เตรียมร่วมทุนกับ China Merchants Port Holdings ขยายท่าเรือ Paranaguá ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกาใต้ และอาจลงทุนเพิ่มจากการประมูลท่าเรืออีก 22 แห่งก่อนสิ้นปี 2025

    ด้านการลงทุนในแอฟริกาเพิ่มจาก 2 ท่าเรือในปี 2000 เป็น 61 แห่งใน 30 ประเทศในปี 2022 ส่วนในยุโรป จีนถือหุ้นใหญ่ในท่าเรือสำคัญของเบลเยียมและกรีซ ที่เรียกว่า "หัวมังกร" ของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(BRI)

    การก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางทะเลของจีนสะท้อนความทะเยอทะยานของสี จิ้นผิง ในการครองความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจโลก ทั้งเพื่อรักษาเส้นทางการค้า สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเข้าถึงแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น ทองแดงจากชิลี เปรู เม็กซิโก และลิเธียมจากชิลีและอาร์เจนตินา

    รายงานจากสถาบันนโยบายสมาคมเอเชียระบุว่า 14 จาก 17 ท่าเรือที่จีนถือหุ้นใหญ่มีศักยภาพรองรับการใช้งานทางทหาร เช่นเดียวกับฐานทัพเรือในจิบูตีและที่กำลังสร้างในอิเควทอเรียลกินี

    ที่ปรึกษาทรัมป์เสนอเก็บภาษี 60% กับสินค้าที่ผ่านท่าเรือที่จีนควบคุมในอเมริกาใต้ แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าอาจไม่ได้ผล และยิ่งบั่นทอนอิทธิพลของสหรัฐฯ ขณะที่จีนอาจตอบโต้ด้วยการระงับส่งออกแร่ธาตุสำคัญ

    ด้านประเทศเจ้าบ้านอย่างเปรูและบราซิลกลับใช้การแข่งขันนี้เป็นประโยชน์ ดึงดูดการลงทุนจากทั้งจีนและตะวันตก เช่น CMA CGM ของฝรั่งเศสที่ลงทุนในท่าเรือ 60 แห่งทั่วโลก และเพิ่งซื้อท่าเรือซานโตสในบราซิล แม้จะยังไม่สามารถแข่งกับการลงทุนของจีนได้ เนื่องจากมีกระบวนการที่เข้มงวดและช้ากว่า

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/why-chinas-port-play-has-trump-so-up-in-arms/