ขอบคุณภาพจาก Facebook/Dr. Mahathir bin Mohamad และ Xinhua

24/05/2024

ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำและนักการเมืองที่คร่ำหวอดมาหลายยัคหลายสมัยของของมาเลเซีย ระบุว่าอาเซียนควรมองข้ามการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ โดยขอให้อาเซียนวางตัวเป็นกลาง พร้อมโต้แย้งว่า การหลีกเลี่ยงการปะทะกับประเทศที่นำโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ "ทะเยอทะยาน" นั้น สำคัญกว่า

"จีนสามารถอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ได้" มหาเธร์กล่าวในการประชุม Future of Asia ประจำปีที่กรุงโตเกียว "เราไม่จำเป็นต้องทำสงครามกับจีนเพราะคำกล่าวอ้างของจีนแต่อย่างใด"

"เราเพียงต้องการอยู่อย่างสงบสุขระหว่างตัวเราเองและกับคู่ค้าของเรา" มหาเธร์ย้ำ

นอกจากนี้ มหาเธร์ก็ยังแย้งว่า ตราบใดที่จุดยืนของจีนไม่ก่อให้เกิดอันตรายทางกายภาพหรือละเมิดคำกล่าวอ้างของมาเลเซีย มาเลเซียก็ไม่มีปัญหา พร้อมระบุว่า จีนไม่ได้ตรวจสอบเรือหรือสั่งห้ามการเดินเรือผ่านทะเลจีนใต้

แม้จุดยืนของมหาเธร์อาจแตกต่างจากจุดยืนของรัฐบาลมาเลเซียซึ่งปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือทะเลเกือบทั้งหมด แต่มหาเธร์เน้นย้ำว่า จีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดสำหรับสมาชิกส่วนใหญ่ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) แม้ว่ารัฐในอาเซียนอาจไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของจีน แต่ก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจทางตอนเหนือได้

“จีนเป็นตลาดใหญ่ เราไม่สามารถสูญเสียตลาดนั้นไปได้ ถ้าเราเข้าข้างข้างหนึ่งข้างใด เราก็จะสูญเสียตลาดอเมริกาหรือตลาดจีน” มหาเธร์กล่าว

รัฐบุรุษผู้มากด้วยประสบการณ์ซึ่งจะมีอายุครบ 99 ปีในเดือนกรกฎาคม ปีนี้ (2024) ยอมรับว่าจีนกล้าแสดงจุดยืนมากขึ้นภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่ก็มองว่าผู้นำในอนาคตสามารถเปลี่ยนลักษณะการแสดงออกของปักกิ่งได้

“สี จิ้นผิงดูเหมือนจะทะเยอทะยานและก้าวร้าวมากขึ้น” มหาเธร์กล่าว พร้อมเสริมว่า “จีนผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายจากการเปลี่ยนผู้นำ”

แต่หากมีคนเข้ามารับตำแหน่งต่อจากสี มหาเธร์ก็มองว่า จีนจะเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกครั้ง แม้จะไม่มีใครบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็ตาม

IMCT News

ที่มา https://asia.nikkei.com/Spotlight/The-Future-of-Asia/The-Future-of-Asia-2024/Mahathir-says-Beijing-can-claim-South-China-Sea-no-need-for-war