สงครามแย่งแร่หายากในคองโก: จากความขัดแย้งประวัติศาสตร์สู่วิกฤตโลก

31-1-2025

      สถานการณ์ความรุนแรงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) กำลังทวีความรุนแรงขึ้น สะท้อนให้เห็นการปะทะกันระหว่างรอยแผลทางประวัติศาสตร์ ความมุ่งมั่นทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

     มายา นิโคลสกายา รักษาการผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาแอฟริกาแห่งมหาวิทยาลัย MGIMO ของรัสเซีย ระบุว่าปมขัดแย้งนี้มีรากเหง้าย้อนไปหลายศตวรรษ ตั้งแต่การกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างรวันดา คองโก บุรุนดี และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคทะเลสาบใหญ่ ซึ่งบางครั้งก็ไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน

ความขัดแย้งครั้งนี้มีความซับซ้อนมากขึ้นจากการที่รวันดาซึ่งมีกองทัพเข้มแข็งเข้ามามีบทบาท รวมถึงการมีส่วนร่วมของกลุ่มติดอาวุธและผู้นำสงครามต่างๆ ที่สำคัญคือการใช้อาวุธสมัยใหม่และโดรนจากพันธมิตรตะวันตกและตะวันออกกลาง ทำให้การสู้รบรุนแรงและรวดเร็วกว่าสงครามครั้งก่อนๆ

    ในฐานะผู้ผลิตแร่ธาตุหายาก เพชร และทองคำรายสำคัญของโลก ความไม่สงบในคองโกส่งผลกระทบต่อราคาและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แม้จะเป็นโอกาสระยะสั้นสำหรับประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อย่างจีน สหรัฐฯ อินเดีย และรัสเซีย แต่ความไม่มั่นคงระยะยาวอาจบั่นทอนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลก

    ขณะที่การเจรจาสันติภาพที่ลูอันดาและไนโรบีอาจกดดันให้ประธานาธิบดีคองโก เฟลิกซ์ ตชิเซเคดี ต้องยอมอ่อนข้อให้รวันดาในเรื่องดินแดน ยังมีความเสี่ยงที่ประชาคมแอฟริกาตะวันออกอาจแตกแยกเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในแอฟริกาตะวันตกระหว่างอีโควาสกับกลุ่มประเทศซาเฮล

    สหภาพยุโรปซึ่งพึ่งพาแร่ธาตุจากคองโกพยายามผลักดันให้ยุติความขัดแย้ง แต่การที่กลุ่มกบฏ M23 ควบคุมพื้นที่ทำเหมืองสำคัญ ทำให้ตลาดโลกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้า "แร่เลือด" ทั้งโคบอลต์ ลิเธียม และทองแดง ที่สร้างรายได้ให้กับผู้นำสงครามและกองกำลังติดอาวุธ ส่งผลให้วิกฤตนี้ทวีความซับซ้อนและยากต่อการแก้ไข

---

IMCT NEWS

ที่มา https://en.sputniknews.africa/20250130/blood-cobalt-and-geopolitical-ambitions-russian-expert-explains-stakes-in-drc-conflict---1070430130.html