1/7/2024
อาการสมองเสื่อมของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่แสดงออกอย่างชัดเจนในเวทีดีเบทกับผู้ท้าชิงโดนัลด์ ทรัมป์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดมีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า ไบเดนเป็นเพียงหุ่นเชิดในทำเนียบขาวหรือไม่ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งสูงสุดของสหรัฐอเมริกา
มาร์โค รูบิโอ (Marco Rubio) สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาตั้งคำถามถึงความสามารถของไบเดนในการเป็นผู้นำของประเทศ
รูบิโอกล่าวว่า “คุณต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่า ใครเป็นคนตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในแต่ละวันในทำเนียบขาว เพราะผมไม่คิดว่า คนที่คุณได้เห็นในคืนนี้ (ซึ่งหมายถึงประธานาธิบดี ไบเดน) จะสามารถดูแลรายละเอียดต่าง ๆ ของการบริหารประเทศได้ ณ เวลานี้”
วิเวก รามาสวามี อดีตผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีเขียนในXว่า “ข้อความของผมถึงพรรคเดโมแครต: ยุติเรื่องตลกที่ว่าโจ ไบเดนจะเป็นผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อของคุณ เขาไม่ใช่แม้แต่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ เขาเป็นหุ่นเชิดสำหรับทีมผู้จัดการผู้บริหาร เขาควรหลีกทางและยุติผู้สมัครรับเลือกตั้งทันที”
ตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ จะควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีกด้วย (Commander in Chief) ทำให้ไบเดนมีอำนาจในการสั่งการกดปุ๋มอาวุธนิวเคลียร์ แต่ด้วยอาการสมองเสื่อม ไม่สามารถสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง หรือเป็นเหตุเป็นผล หรือความไร้สมรรถภาพทางร่างกาย จึงเป็นเรื่องน่ากังวลใจเป็นอย่างยิ่งที่การตัดสินใจในนโยบายต่างๆที่สำคัญของสหรัฐ อยู่นอกเหนือการรับรู้ หรือการควบคุมของไบเดน แต่กลับอยู่ในมือของทีมผู้จัดการที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง
Martin Armstrong แห่ง armstrongeconomics.com กล่าวว่า พวกนีโอคอน (Neo-Conservatives) หรือพวกอนุรักษ์นิยมสายใหม่ที่มีความคิดเห็นที่รุนแรงอยู่เบื้องหลังการควบคุมโจ ไบเดน ทำให้นโยบายต่างๆที่ออกมาจากฝ่ายบริหารเป็นไปในทิศทางที่ต้องการก่อสงครามโลก โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือผลประโยชน์ของคนอเมริกันอย่างแท้จริง
ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นตำแหน่งที่ต้องทำงานหนักเกือบ 24 ชั่วโมง เพราะว่าสหรัฐเป็นมหาอำนาจโลกที่มีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็น และปัญหาต่างๆมากมายทั่วโลก สมรรถภาพในการตัดสินใจ หรือสุขภาพของประธานาธิบดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่โจ ไบเดนมีอายุ 81 ปีแล้ว และมีอาการสมองเสื่อมที่หลายครั้งไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำให้มีคลิปออกมาในสื่อโซเซี่ยลเยาะเย้ยอาการเงอะงันของเขาเป็นที่น่าขบขันเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าไบเดนจะครอบครองทำเนียบขาวมาสามปีครึ่งแล้ว แต่สื่อกระแสหลักส่วนใหญ่ของสหรัฐกลับทำหน้าที่เหมือนกับเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต โดยไม่ได้รายงานความเป็นจริงกับขบวนการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายต่างๆของไบเดนว่า ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย จะพูดจะทำอะไรก็มีสคริปต์เตรียมเอาไว้ให้หมด ทำให้เชื่อได้ว่านโยบายที่สำคัญๆเช่นการสนับสนุนยูเครนเพื่อรบกับรัสเซีย หรือการโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธของสหรัฐ นโยบายสนับสนุนอิสราเอลในสงครามในกาซ่าที่ไร้มนุษยธรรมเป็นสิ่งที่ทีมผู้จัดการในทำเนียบขาวจัดการหมด โดยที่ไบเดนถูกจับมือเซ็น
ขณะนี้พรรคเดโมแครตกำลังพยายามเฟ้นหาตัวผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีแทนโจ ไบเดน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าถ้าหากเดินหน้าให้ไบเดนแข่งกับทรัมป์ต่อไป จะต้องสูญเสียการครอบครองทำเนียบขาวให้ทรัมป์อย่างแน่นอน
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้พูดถึงความกังวลที่เกิดขึ้นหลังผลงานการดีเบทที่ย่ำแย่ของตนในคืนวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการเรียกร้องจากผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตให้ไบเดนถอนตัวจากศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ขึ้นเวทีดีเบท กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ได้ออกหาเสียงในเมืองราลีย์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา โดยผู้นำสหรัฐฯ แสดงความกระฉับกระเฉงเมื่อพูดถึงผลงานการดีเบท และความกังวลที่มีต่ออายุของตัวเอง
ไบเดนกล่าวว่า “ผมอาจจะไม่ได้พูดจาราบรื่นอย่างที่เคย ผมดีเบทไม่ดีอย่างที่เคย แต่ผมรู้ว่าจะต้องทำหน้าที่ผู้นำสหรัฐฯอย่างไร ผมรู้ว่าจะทำยังไงให้งานสำเร็จลุล่วง ผมรู้ในสิ่งที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนก็รู้ว่า ถ้าเราถูกชนให้ล้มลง เราก็ต้องลุกขึ้นมา”
IMCT News
ที่มา Agencies