สหรัฐ vs จีน: ใครพึ่งพาใคร? (8)
14/3/2024
จีนมีการปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม (socialism) แม้ว่าจีนจะมีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวคือพรรคคอมมิวนิสต์ (Chinese Communist Party) แต่พรรคคอมมิวนิสต์นั้นเป็นคอมมิวนิสต์เพียงแต่ชื่อ แต่ในความเป็นจริงพรรคดำเนินนโยบายสังคมนิยมเป็นหลัก เพราะว่ายังไปไม่ถึงสังคมคอมมิวนิสต์
คอมมิวนิสต์เป็นสังคมในอุดมคติที่ไม่มีชนชั้น ไม่มีความเป็นเจ้าของ ทุกคนเสมอภาคกัน ปัจจัยการผลิตเป็นเจ้าของร่วมกัน ผลผลิตมีเกินพอเนื่องจากพัฒนาการทางเทคโนโลยี ทุกคนอยู่ดีกินดี จนบ้านเมืองไม่มีผู้ร้าย ออกจากบ้านไม่ต้องปิดล็อคประตู จีนยังไปไม่ถึงพัฒนาการสุดท้ายของสังคมคอมมิวนิสต์หรือสังคมยูโทเปีย ซึ่งถือว่าเป็นสังคมในอุดมคติ
ณ ปัจจุบันจีนจึงยังคงอยู่ที่ระบบสังคมนิยมอยู่
ระบบสังคมนิยมคือระบบที่เอาสังคมมาก่อน หรือเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง โดยปัจจัยการผลิต ที่ดินทำกิน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข สวัสดิการสังคมต่างๆรัฐบาลส่วนเป็นผู้ดูแล แต่ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่ดินทำกิน และให้ประชาชนสามารถทำการค้าขายประกอบธุรกิจได้ ตั้งบริษัทได้ โดยผสมผสานกันระหว่างสังคมนิยมและทุนนิยม
ก่อนเติ้ง เสี่ยวผิง ขึ้นมามีอำนาจ รัฐบาลผูกขาด หรือมีบทบาทสำคัญที่สุดในระบบเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเดินหน้าได้ไม่ถนัด แต่หลังจากนั้นบทบาทของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจนขณะนี้เศรษฐกิจของภาคเอกชนมีสัดส่วนมากกว่า 50%
ของจีดีพีจีน
รัฐบาลก็คือตัวแทนของประชาชน 1,400 ล้าน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐมาจากคนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนส่งเข้ามาดูแลบริหารจัดการประเทศ
คำถามว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งก่อตั้งในปี 1921 เอาอำนาจมาจากมาจากไหน? คำตอบคืออำนาจของพรรคมาจากการปฏิวัติของเหมา เจ๋อตุงจนสามารถยึดอำนาจภายในอย่างเด็ดขาด และมีการสร้างชาติจีนใหม่เรียกว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา
พรรคคอมมิวนิสต์ครองอำนาจต่อเนื่องมาตลอด โดยไม่มีการเลือกตั้งเหมือนอย่างที่เราเข้าใจในระบบเลือกตั้งประชาธิปไตย แต่มีการถ่ายโอนอำนาจกันเองของคนในพรรค เลือกตั้ง หรือแข่งขันกันเองภายในกันเองภายในพรรค จนถึงขณะนี้
ผู้นำจีนมาถึงรุ่นที่5 โดยมีสี จิ้นผิงเป็นผู้นำที่กุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จ
ถ้าถามจีนว่าปกครองด้วยระบอบอะไร จีนจะตอบว่า จีนปกครองด้วยระบอบsocialism with Chinese characteristics แปลว่า ระบอบสังคมนิยมด้วยลักษณะที่เฉพาะของจีน คำว่าด้วยลักษณะเฉพาะของจีนมีความสำคัญ หมายความว่าจีนใช้การปกครองในรูปแบบสังคมนิยมที่เอาผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อน
แต่ในสังคมนิยมนั้นอาจจะมีการดัดแปลงปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ หรือตามที่เห็นควร เท่ากับว่าจีนต้องการมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ไม่ต้องการยึดมั่นในตำราหรือคัมภีร์มากจนเกินไป เพราะว่าตำรากับความเป็นจริงของสถานการณ์อาจจะไม่เหมือนกัน
คนจีนเป็นคนที่เน้นภาคปฏิบัติ (Pragmatism)มาแต่ไหนแต่ไรมากกว่าเน้นคำภีร์หรือยึดติดกับทฤษฎีแบบหัวชนฝา อันเห็นได้จากบทสนทนาระหว่างเล่าจื้อ ผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋ากับขงจื้อ ผู้ก่อตั้งลัทธิขงจื้อ ตอนที่ขงจื้อเดินทางไปเยี่ยมเยือนเล่าจื้อ
ทันทีที่พบหน้ากัน เล่าจื้อพูดขึ้นไปว่า :
“ท่านซ่งจิวปรัชญาเมธีที่ท่านเอ่ยถึงระหว่างการสนทนานี้ล้วนสิ้นชีพวายชนม์กันไปนานมากแล้ว ทั้งเกรงว่ากระดูกที่อยู่ใต้ดินก็คงจะผุพังเน่าเปื่อยจนหมดสิ้นแล้วเชานกัน เหลือแต่เพียงถ้อคำที่ยังคงบอกเล่าสืบกันไป คนฉลาดควรมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสังคม เมื่อชีวิตได้พบเจอกับสิ่งดีๆ ก็จงมุ่งมั่นในสิ่งนั้นต่อไป แต่หากชีวิตไม่ได้พบสิ่งดีๆ ก็จงพริ้วไหวไปตามสายลมให้ตนเองเป็นอิสระเสรี”
พริ้วไปตามสายลมหมายความว่าต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้ ไม่กอดตำราจนตัวตายจนทำอะไรไม่ได้
เติ้ง เสียวผิงจึงใช้คำพูดที่โค๊ดกันมาตลอดคือ แมวจะสีอะไรก็ตามไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็แล้วกัน หมายความว่าจีนไม่จำเป็นจะต้องเดินตามตำราสังคมนิยมอย่างเคร่งครัดจนไม่สามารถจะบริหารจัดการประเทศ หรือฟื้นฟูประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าได้
อันเป็นที่มาของการที่เติ้งใช้ระบบทุนนิยมเข้ามาผสมผสานในการบริหารเศรษฐกิจเพื่อรองรับการลงทุนของสหรัฐ หรือต่างประเทศเมื่อตอนที่เปิดประเทศในปี 1979
การผสมผสานระหว่างสังคมนิยมและทุนนิยมนี้เป็นรากฐานทำให้เอกชนจีนค่อยๆ เติบโตในแนวการทำธุรกิจแบบทุนนิยม แต่มีรัฐบาลใช้อำนาจทางการเมืองพรรคเดียวที่เด็ดขาดในการบริหารประเทศให้เข้ารูปเข้ารอยตามกรอบของสังคมนิยมที่ต้องเหนือกว่าทุนนิยม เพราะว่าทุนนิยมมือใครยาวสาวได้สาวเอาจะสร้างความเหลื่อมล้ำ และจะก่อปัญหาทางการเมืองและสังคมตามมา เนื่องจากไม่สามารถดูแลประชาชน 1,400ล้านคนให้ทั่วถึง
ในแง่นี้จีนมีความแตกต่างอย่างชัดเจนของระบบสหรัฐอเมริกา ระบบสังคมนิยมของจีนเอาสังคมประชาชนหรือส่วนรวมมาก่อน ส่วนระบบทุนนิยมเสรีนิยมของสหรัฐเอาผลประโยชน์ของนายทุน หรือผู้ถือหุ้นบริษัทมาก่อน ทำให้บางคร้ังคนชอบเรียกสหรัฐว่า America Inc หรือCorporate America
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในการบริหารประเทศของสหรัฐอเมริกาจะเอาใจ หรือดำเนินนโยบายเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทหรือภาคธุรกิจให้ได้กำไรให้มากที่สุด หรือให้มีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่ายิ่งบริษัทหรือแบงก์ได้กำไรดีเศรษฐกิจก็จะดีไปเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป
ด้วยเหตุนี้การดูแลประชาชนหรือสังคมในระบบทุนนิยมสหรัฐจะมาทีหลังผลประโยชน์ของคอร์โปเรท แต่ในเบื้องลึกภาคการเงินหรือวอลล์สตรีทจะอยู่เหนือภาคคอร์ปอเรทอีกชั่นหนึ่ง หรือดูเหมือนว่าจะมีอำนาจเหนือทำเนียบขาว และสภาคอนเกรซ ตอนนี้ซิลิคอนแวลเลย์ ซึ่งมีพวกบิ๊คเทคเป็นตัวแทนกำลังกลายเป็นชนชั้นอภิสิทธิ์ในระบบเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าจับตามอง
ในประเทศจีนใครใหญ่สุด? แน่นอนทีเดียวที่รัฐบาลกลางจีนที่ปักกิ่งใหญ่สุด โดยรัฐบาลปักกิ่งเป็นตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์ และสมาชิกบูลิทยูโรที่บริหารพรรคในระดับสูงสุด โดยมีเลขาธิการพรรคคือสี จิ้นผิงที่เป็นทั้งผู้นำพรรค ผู้นำรัฐบาลในฐานะประธานาธิบดีและเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปลดแอกประชาชน
ในสหรัฐอเมริกาใครใหญ่สุด?
เห็นได้ชัดเจนว่าประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้ใหญ่ที่สุดเหมือนผู้นำจีน แม้ว่าตามตำราจะบอกว่าประธานาธิบดีมีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหารประเทศเพราะว่าได้ผ่านการเลือกตั้งโดยประชาชนคนอเมริกันโดยตรง และดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (Commander in Chief) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้ ปล่อยให้ US Federal Reserve พิมพ์เงินช่วยวอลล์สตรีทมาตลอด โดยไม่ได้ช่วยประชาชน แบงก์ขาดสภาพคล่องเมื่อใด เฟดจะรีบอัดเงินเข้าไปช่วย ส่วนประชาชนขาดสภาพคล่องก็ต้องช่วยตัวเอง good luck
ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งเพนตากอนของฝ่ายทหารไม่ได้ต้องเพิ่มงบประมาณการทหารทุกปีๆตามแรงกดดันของพวกMilitary Industrial Complex เพนตากอนก็เขียนเสือให้วัวกลัวเพื่อที่จะได้เพิ่มงบ สส. สว. ทำเนียบขาวก็พร้อมประเคนงบประมาณให้มากที่สุดของการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งบิ๊คเทคไม่ได้ อันเห็นได้จากประธานาธิบดีทรัมป์ถูกบิ๊กเทค อย่างเฟสบุ๊ค ทวิทเตอร์ ยูทูปแบนแอคเค้าท์ในช่วงควันหลงของการแข่งนับคะแนนเลือกตั้งกับโจ ไบเดน
นโยบายสาธารณสุขของสหรัฐในเวลานี้ทำตามอิทธิพลของบริษัทยา ประธานาธิบดีสหรัฐหลังจากชนะการเลือกตั้งไม่สามารถฟอร์มครม. ด้วยตัวเองได้ Council on Foreign Relations หรือ CFR จะเป็นผู้ส่งคนเข้าไปบริหารทำเนียบขาว ประธานาธิบดีแค่ทำหน้าที่แสดง หรือ แอคติ๊ง อ่านสกริ๊ป เล่นตามบทที่รัฐลึกกำหนดเอาไว้
โมเดลของ 2 ระบบ ระหว่างสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน กับทุนนิยม/เสรีนิยม/ประชาธิปไตยที่เอื้อการผูกขาดของวอลล์สตรีท คอร์ปอเรทกับบิ๊คเทคอย่างไหนจะดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือประชาชนมากกว่ากัน? โมเดลไหนจะยั่งยืนมากกว่ากัน?
By Thanong Khanthong, Editor
IMCT News