ขอบคุณภาพจาก RT

9/7/2024

กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพเป็นวาณิชธนากร หรือ ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐ มักถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอว่า ได้ค่าจ้างสูงเกินไป

Oxford Academic  ได้ศึกษาประเด็นค่าจ้างและทักษะความสามารถของมนุษย์ในอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐ พบว่า การที่รัฐยกเลิกกฎระเบียบที่เคร่งครัดทางการเงิน  ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของสหรัฐมีความซับซ้อนมากขึ้น  จึงจำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความสามารถ และพวกเขาก็ได้ค่าจ้างแพงขึ้นด้วย

ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐเริ่มได้ค่าตอบแทนพิเศษอย่างเป็นกอบเป็นกำเหนือกว่าอาชีพอื่นๆ เมื่อช่วงประมาณปี 1990    และรายได้ก็พุ่งสูงกว่าอาชีพอื่นๆ ถึง 50% ก่อนปี 2006   และแนวโน้มก็ยังเป็นเช่นนี้ในปัจจุบัน  อาชีพที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐ ยังคงสร้างรายได้มากโขต่อเดือน

ตัวอย่างเช่น   โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดัง มีอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พอกพูนขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 75% ในปี 2023  สูงเกินจากที่ตั้งเป้าไว้ว่า ตัวเลขนี้จะอยู่ที่ 60%  สะท้อนให้เห็นถึงรายได้สุทธิที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น   เพราะอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงานเกิดจากค่าใช้จ่ายหารด้วยรายได้   ถ้าออกมาต่ำกว่า 50% จึงจะนับว่า เหมาะสม

การที่โกลด์แมน แซคส์ มีอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงานปาเข้าไปที่ 75% แสดงว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น น่าจะมาจากการจ้างที่ปรึกษาทางการเงินในอัตราเงินเดือนที่แพงมาก   ส่วนวาณิชธนกิจแห่งอื่นๆ เช่น Lazard , Evercore , และ PJT Partners ก็ล้วนแต่มีอัตราส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่า ควรจะอยู่ที่ 55%

สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐได้รับผลตอบแทนที่สูงเกินไป รายได้ที่สูงมากของพวกเขามาจาก  การรับประกันเงินโบนัสว่าจะไม่น้อยไปกว่านี้    การที่บริษัทยอมจ่ายเงินเดือนแพงๆ เพื่อรักษาพนักงานที่เก่งกาจไว้  และการคาดการณ์ว่า ตลาดจะพลิกฟื้น

ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ตามปกติ โบนัสในแต่ละปีจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด  แต่คนกลุ่มนี้ กลับต้องการให้บริษัทรับประกันเงินโบนัสของพวกเขาว่า จะได้ไม่น้อยไปกว่านี้  และเนื่องจากบริษัทไม่ต้องการจะสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถ  จึงยอมจ่ายโบนัสแบบการันตีไว้แล้วว่า จะได้กี่เดือนอย่างต่ำ เพื่อรักษาพนักงานดีดีเอาไว้  ดังนั้น ไม่ว่าตลาดจะผันผวนขนาดไหน แต่ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐ จะยังคงได้โบนัสตอบแทนในอัตราที่น่าพอใจเสมอ

การที่ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐได้ค่าจ้างสูงเกินไป จึงกระทบกับผลกำไรของอุตสาหกรรมประเภทนี้  ก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงความยั่งยืนในระยะยาว   แต่ทางบริษัทก็แย้งว่า จำเป็นต้องให้เงินเดือนสูงๆ เพื่อรักษาคนเก่งเอาไว้

และเนื่องจากการผุดขึ้นมาของ เอไอ คริปโต และปัจจัยอื่นๆ  ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ จึงน่าจะดันให้เกิดการปรับโครงสร้างการจ่ายค่าตอบแทนในทุกตลาดการจ้างงาน

ไฟแนนเชียล ไทมส์ ยังรายงานว่า  ผู้บริหารกิจการบางคนเริ่มเห็นช่องทางที่เอไอจะเข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างการจ่ายเงินเดือนของวาธิชธนกิจเหล่านี้  อาจส่งผลให้เกิดการจ้างที่ปรึกษาทางการเงินน้อยลง หรือ ดันให้พวกเขาต้องเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น  และต่อไปก็อาจจะได้เห็น ที่ปรึกษาทางการเงินเหลืออยู่ไม่มากนักในตลาด และมีค่าจ้างถูกลงด้วย

ถึงแม้อุตสาหกรรมประเภทนี้ จะต้องการพนักงานที่มีความสามารถเฉพาะทาง  แต่การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ และสภาพตลาด อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบค่าจ้างของที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐก็เป็นได้

By IMCT News

อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/us-investment-bankers-are-overpaid-the-salary-scandal