Thailand
ไทยเลือกเดินบนเส้นทางสู่เวทีโลก ตัดสินใจเข้าร่วม BRICS เปิดรับโอกาสทุกทางสร้างความร่วมมือ พร้อมร่วมวางรากฐานเศรษฐกิจโลกใหม่
30/5/2024
ประเทศไทยสนใจเข้าร่วม BRICS ตั้งแต่ สิงหาคม 2566 โดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้น เดินทางไปยังประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ในโอกาสนี้ นายดอนได้แสดงความสนใจของไทยที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS
นายดอน เคยกล่าวไว้ว่า ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศสมาชิก BRICS ทั้งหมด และไทยมีศักยภาพที่จะเป็นสมาชิกที่มีคุณค่าของกลุ่มการเข้าร่วม BRICS จะช่วยให้ไทยสามารถขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน กระจายความเสี่ยงทางการค้า เข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ และส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ กับประเทศสมาชิก ...
หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลชุดใหม่ในประเทศไทย จนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลไทย มีมติให้ความเห็นชอบร่างหนังสือแสดงความประสงค์ของไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการและให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2567 ต่อจากนั้นหนังสือดังกล่าวจะถูกส่งไปยังประเทศสมาชิก BRICS เพื่อพิจารณาต่อไป
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS พร้อมแต่งตั้ง กต. เป็นหน่วยงานหลักขับเคลื่อนการดำเนินงาน
(28 พฤษภาคม 2567) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติเห็นชอบต่อร่างหนังสือแสดงความประสงค์ของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างหนังสือแสดงความประสงค์ดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ที่ประชุมให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก
พร้อมทั้งขออนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามในหนังสือแสดงความประสงค์ฯ รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ของประเทศไทย
กลุ่ม BRICS ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 โดยเป็นการรวมตัวของกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน (สมาชิกแรกเริ่ม 4 ประเทศ ภายใต้ชื่อกลุ่ม BRIC) สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2553 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่ม BRICS) สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (5 ประเทศหลังเข้าเป็นสมาชิกใหม่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567)
มีประชากรรวมกันทั้งหมดประมาณร้อยละ 39 ของโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันประมาณร้อยละ 28.4 ของโลก ทั้งนี้ ในปี 2567 สหพันธรัฐรัสเซียเป็นประธานกลุ่ม ภายใต้หัวข้อหลัก "Strengthening multilateralism for fair global development and security"
การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS จะช่วยยกระดับบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยเป็นการกระชับความร่วมมือกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีศักยภาพจะก้าวขึ้นมามีบทบาททางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคต โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การเงิน ความมั่นคงด้านอาหารและความมั่นคงด้านพลังงาน
ทั้งยังช่วยเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในการปฏิรูประบบเศรษฐกิจการเงินระหว่างประเทศ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง
นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทยได้ร่วมสร้างระเบียบโลกใหม่ ที่กลุ่มประเทศตลาดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทสำคัญ มีความครอบคลุม และไม่มุ่งต่อต้านกลุ่มใด
ความร่วมมือในกลุ่ม BRICS แบ่งเป็น 3 เสา ประกอบด้วย (1) เสาด้านการเมืองและความมั่นคง (2) เสาด้านเศรษฐกิจและการเงิน และ (3) เสาด้านมนุษยธรรมและวัฒนธรรม โดยนอกจากจะมีการประชุมระดับผู้นำของ BRICS แล้ว ยังมีการจัดประชุมในระดับต่างๆ เช่น คณะทำงาน เจ้าหน้าที่อาวุโส รัฐมนตรี รวมกันประมาณ 200 การประชุมต่อปี ใกล้เคียงกรอบอาเซียน ดังนั้น หากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยมีความพร้อม การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS จะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในการหารือกับประเทศสมาชิก ประเทศหุ้นส่วนและประเทศอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในกลไกของกลุ่ม BRICS เพื่อขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ความมั่นคง การต่อต้านการก่อการร้าย ยุติธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม สาธารณสุข การคลัง การค้าและเศรษฐกิจ การจัดการภาษี การคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การส่งเสริมบทบาทของเยาวชนและสตรี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
By IMCTNEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved