Thailand
เผ่าภูมิยันแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 ต่อ ชี้เหลือ 5,000 บาท รอบอร์ดกระตุ้น ศก.
1/10/2024
ขอบคุณภาพ เว็บไซต์ข่าวประชาชาติ
เผ่าภูมิ รมช.คลัง เผยรัฐลุยแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 ต่อ ชี้ยังไม่หารือลดเงินดิจิทัลวอลเลตเฟส 2 เหลือ 5,000 บาท ต้องรอบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจสรุป ยันมีเงินเพียงพอแน่นอน ขณะที่ราชกิจจาฯเผยแพร่พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568 แล้ว
วันที่ 30 กันยายน 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ว่า ยืนยันรัฐบาลพร้อมเดินหน้าต่ออย่างแน่นอน แต่ในรายละเอียดจะต้องหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
สำหรับกำหนดการนัดประชุมจะยังไม่มีการนัด เนื่องจากปัจจุบันนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรรมการหลายภาคส่วน ต่างติดภารกิจเร่งด่วนลงพื้นที่เพื่อติดตามและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ แต่คาดว่าจะมีการนัดในเร็ว ๆ นี้ และจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่มีการเสนอข่าวว่าโครงการในเฟส 2 อาจเหลือ 5,000 บาทนั้น นายเผ่าภูมิกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการในที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเพียงข้อเสนอในสังคม ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป ดังนั้น ขอให้รอผลการประชุมจากคณะกรรมการดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
ส่วนเรื่องของแหล่งเงินนั้น ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะรัฐบาลได้กันวงเงินไว้เพื่อดำเนินการโครงการนี้แล้ว แม้ว่าจะมีการใช้เงินเพื่อเยียวยาอุทกภัยก็ไม่กระทบ
“รัฐบาลจะเดินหน้าการแจกเงินเฟส 2 อย่างแน่นอน ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วมีสิทธิทุกคน แต่จะแจกในมิติไหน รูปแบบไหน วิธีการอย่างไร ระยะเวลาไหน จึงต้องรอคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน” รมช.คลังกล่าว
สำหรับโจทย์ใหญ่ในการประชุมครั้งนี้คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ต้องมองภาพเศรษฐกิจให้ตรงกันก่อน จึงจะสรุปได้ว่าเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นแบบใด ยอมรับว่าทุกวันนี้ยังมองไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีนัดหารือพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ถือเป็นการหารือถึงมุมมองเศรษฐกิจให้มีความตรงกัน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยและกรอบเงินเฟ้อ
นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า ส่วนการโอนเงิน 10,000 บาทตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายนั้น ในภาพรวมทุกอย่างเรียบร้อย และเป็นไปตามกระบวนการ แม้จะมีส่วนที่โอนเงินไม่สำเร็จบ้าง เนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์
“ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่โอนเงินไม่สำเร็จเร่งไปดำเนินการผูกพร้อมเพย์ หรือกรณีคนพิการก็เร่งทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จ ซึ่งรัฐบาลจะโอนย้ำให้ 3 ครั้ง” นายเผ่าภูมิกล่าว
วันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กำหนดวงเงินงบประมาณไว้รวมทั้งสิ้น 3,752,700 ล้านบาท (3.75 ล้านล้านบาท) มีทั้งหมด 7 หมวด 40 มาตรา ครอบคลุมทุกกระทรวง ทบวง กรม
โดยงบประมาณสำคัญที่กำหนดไว้ภายใต้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายงบฯกลางไว้จำนวน 842,001 ล้านบาท
ในจำนวนนี้มีรายจ่ายที่สำคัญคือ รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 187,700 ล้านบาท ซึ่งเดิมเงินงบประมาณส่วนนี้รัฐบาลตั้งเอาไว้เป็นแหล่งเงินสำคัญ เพื่อใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท เฟส 2
ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-1663851
© Copyright 2020, All Rights Reserved