Thailand
ขอบคุณภาพจาก almayadeen
24.04.2024
บลูมเบิร์ก สื่อของสหรัฐ รายงานว่า สหรัฐฯไม่มีแนวโน้มที่จะคว่ำบาตรอิหร่านตามที่เคยประกาศไว้เพราะอาจเสี่ยงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปลายปีนี้ ( 2024 ) ข่าวนี้ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลงถึง 1.7% ในวันจันทร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อไม่นานมานี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผลักดันจะคุมเข้มภาคพลังงานของอิหร่าน โดยมติใหม่ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบในสภา ตั้งเป้าจะขยายการคว่ำบาตรครอบคลุมไปยังท่าเรือ เรือ และโรงกลั่นน้ำมันของต่างชาติ ที่ยังข้องเกี่ยวกับน้ำมันดิบอิหร่าน ซึ่งจะเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎระเบียบของสหรัฐ
ทั้งยังขยายการคว่ำบาตรต่อเนื่องไปยังการติดต่อค้าขายระหว่างอิหร่านกับสถาบันการเงินจีน และคุมเข้มธนาคารอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับการซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเลียม
ดร.อมฤตา เสน ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Energy Aspects กล่าวว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านส่วนใหญ่ยังถูกส่งโดยตรงไปที่จีน ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันอิสระที่อยู่นอกระบบการเงินของสหรัฐ จึงสร้างความยุ่งยากให้กับสหรัฐที่จะคว่ำบาตรทั้งหมดนี้ ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบข่ายที่สหรัฐจะเอื้อมมือถึง
แม้ว่าอิหร่านจะมีการขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นในปี 2023 ซึ่งช่วยให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ แต่สหรัฐฯ กลับไม่เข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่ เพราะมันจะไปส่งผลกับปริมาณน้ำมันในตลาดโลก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคว่ำบาตรอิหร่านต่อ เพราะปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้งในสหรัฐ การคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีน้อยลง
แม้การคว่ำบาตรของสหรัฐ ทำให้อิหร่านแทบจะเข้าถึงตลาดการเงินโลกไม่ได้เลย แต่อิหร่านก็ขายน้ำมันคิดเป็นมูลค่าถึง 35,800 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 2024 เนื่องจากสายสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งระหว่างจีนกับอิหร่าน ในขณะที่สหรัฐพยายามหาทางเล่นงานอยู่
By IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved