Thailand
27/7/67
กลุ่มประเทศ BRICS+ และประเทศที่วางตัวเป็นกลางกำลังกว้านซื้อทองคำในอัตราที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ขณะที่ความผันผวนทางการเมือง เงินเฟ้อ และการใช้ดอลลาร์สหรัฐฯเป็นอาวุธ ได้ยิ่งทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้น ตามการวิเคราะห์ของ Vahan Roth ผู้บริหารจากบริษัท Swissgrams AG ที่ปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำ
โดยเขายกตัวอย่างการที่ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่าเป็นการสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ของธนาคารกลางในกลุ่ม BRICS+ และประเทศอื่นๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลางที่อาจบานปลายได้ทุกเมื่อ, การเลือกตั้งที่สำคัญในอินเดีย อังกฤษ สหภาพยุโรป ไปจนถึงเม็กซิโกและสหรัฐฯ, รวมถึงความแตกแยกทางสังคมการเมืองและอุดมการณ์ที่ลุกลามไปทั่วโลก
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อชะลอลง แต่นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายก็ยังห่างไกล ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ Roth เห็นว่าทองคำจึงทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่มืดมนและน่าวิตก แม้ความต้องการจากภาคประชาชนจะลดลง แต่แรงซื้อที่พุ่งสูงขึ้นกลับมาจากธนาคารกลางของประเทศในกลุ่ม BRICS+ เป็นหลัก เห็นได้จากในไตรมาส 1/2024 ธนาคารกลางจีน, รัสเซีย, อินเดีย และคาซัคสถาน ต่างเร่งกว้านซื้อทองคำจำนวนมากเข้าคลังสำรอง โดยเฉพาะรัสเซียที่เพิ่มสัดส่วนทองคำเป็นถึง 29% ของทุนสำรองทั้งหมด จาก 11.8% ในปี 2018
Roth มองว่า การพุ่งของราคาทองคำครั้งนี้ เป็นปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการนำดอลลาร์มาใช้เป็นอาวุธทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นหลัก เขาชี้ว่าการเติบโตและขยายอิทธิพลของกลุ่ม BRICS+ ที่ครอบคลุมประชากรกว่า 45% ของทั้งโลก มีพื้นที่ถึง 30% ของโลก และมีขนาดเศรษฐกิจกว่า 37% ของจีดีพีโลก อาจผลักดันให้เกิดสกุลเงินใหม่ที่หนุนหลังด้วยทองคำได้ในอนาคต
ทั้งนี้ Roth ได้นำเสนอ 3 สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป โดยประเมินว่า กรณีที่มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงสุดคือ ประเทศนอกโลกตะวันตกจะยังคงกว้านซื้อทองคำต่อไป ซึ่งจะทำให้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงทางภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป
กรณีที่มีโอกาสเป็นจริงได้ในระยะยาวคือ เศรษฐกิจที่ใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง จะค่อยๆ ลดทอนอำนาจของดอลลาร์สหรัฐฯ ลง เมื่อแต่ละประเทศสะสมทองคำมากขึ้นและพึ่งพาดอลลาร์น้อยลง อิทธิพลของชาติตะวันตกก็จะอ่อนแอลง และมีคันโยกในการผลักดันวาระระดับโลกหรือปกป้องผลประโยชน์น้อยลง
ส่วนความเป็นไปได้ที่สามและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุดคือ การเลิกใช้ดอลลาร์อย่างสิ้นเชิงในกลุ่มประเทศโลกใต้ ซึ่ง Roth ชี้ว่า ถ้าเกิดขึ้นได้จริง จะเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างอำนาจที่สหรัฐฯครอบงำอยู่ในปัจจุบัน โดยอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อระเบียบโลกทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ก็ยังดูเป็นไปได้ยากในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ Roth ชี้ว่า ดอลลาร์สหรัฐฯไม่มีคู่แข่งที่เป็นไปได้จริงในบรรดาสกุลเงินเฟียตอื่นๆ แม้ยูโรจะผงาดเป็นสกุลเงินสำรองอันดับ 2 ของโลกที่ครองสัดส่วนราว 20% ของเงินสำรองระหว่างประเทศ แต่ก็ยังไม่ใช่ภัยคุกคามต่ออำนาจนำของดอลลาร์ ส่วนเยน ปอนด์ หรือแม้แต่หยวนของจีนก็ยิ่งไม่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวแต่อย่างใด
ดังนั้นทองคำจึงถือเป็นทางเลือกเดียวที่ใช้งานได้จริงและมีศักยภาพในการท้าทายสกุลเงินของสหรัฐฯ แม้การเกิดขึ้นของสกุลเงินใหม่ที่มีทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันอย่างที่จีน-รัสเซียผลักดัน จะยังดูเป็นไปได้ยาก แต่ Roth เชื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง ก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสิ้นสุดสกุลเงินเฟียตอย่างแท้จริง
IMCT NEWS
ที่มา Kitco News https://www.kitco.com/news/article/2024-07-24/brics-driving-new-gold-rush-china-russia-gold-backed-currency-would-mark
© Copyright 2020, All Rights Reserved