14/9/2024

การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ สูงถึง 1.897 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 กระทรวงการคลังระบุเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยรายปีของหนี้สาธารณะสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

กระทรวงการคลังกล่าวว่าการขาดดุลงบประมาณปี 2024 จนถึงเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับการขาดดุล 1.525 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ยังเนื่องจากการกลับรายยกเลิกหนี้นักศึกษา319 พันล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2023ของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาโหวตไม่เห็นด้วย การยกเลิกหนี้นักศึกษาของปีที่แล้วไม่ได้เกิดขึ้นซ้ำในปีนี้

การขาดดุลในช่วง 11 เดือนนั้นใกล้เคียงกับประมาณการของสำนักงานงบประมาณรัฐสภาที่คาดว่าจะมีช่องว่าง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2024 ทั้งหมด โดยเหลืออีก 1 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ 30 กันยายน นั่นทำให้กลายเป็นการขาดดุลที่ใหญ่ที่สุดนอกยุคโควิด-19 และสูงกว่าการขาดดุล 1.695 ล้านล้านดอลลาร์ที่รายงานในปีงบประมาณ 2023 อย่างมาก

ปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการขาดดุลในปีงบประมาณ 2024 ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับโครงการประกันสังคมและโครงการ Medicare ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงโครงการด้านการป้องกันประเทศ ตามข้อมูลของกระทรวงการคลัง

รายรับสำหรับ 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 เพิ่มขึ้น 11% เป็น 4.391 ล้านล้านดอลลาร์ จาก 3.972 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2023 ในขณะที่รายจ่ายมีมูลค่ารวม 6.288 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากการใช้จ่าย 5.496 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่เทียบเคียงกันในปีงบประมาณก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งยังสะท้อนถึงการยกเลิกรายการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาในปี 2023 อีกด้วย

ต้นทุนดอกเบี้ยทางการเงินตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของกระทรวงการคลังอยู่ที่ 1.049 ล้านล้านดอลลาร์ตลอดเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากช่วงเวลาเทียบเคียงในปีงบประมาณ 2023 เนื่องจากดอกเบี้ยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในช่วงเดือนดังกล่าวอยู่ที่ 3.35% เพิ่มขึ้น 43 จุดจากปีก่อนหน้า กระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่บอกกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ การใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังสะท้อนถึงต้นทุนทางการเงินสำหรับหนี้จำนวนมาก ซึ่งขณะนี้สูงกว่า 35 ล้านล้านดอลลาร์

IMCT News

ที่มา รอยเตอร์