ทรัมป์ระงับเงินช่วยเหลือยูเครนเป็นเวลา90วัน
25-1-2025
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้มีการระงับเงินช่วยเหลือเกือบทั้งหมดแก่ยูเครนเป็นเวลา 90 วัน ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการทบทวนความช่วยเหลือจากต่างประเทศทั้งหมด
โพลิติโกกล่าว โดยอ้างถึงเอกสารภายใน
ว่า รูบิโอสั่งให้สถานฑูตและสถานกงสุลทั้งหมดให้ออก “คำสั่งหยุดงาน” สำหรับความช่วยเหลือที่รัฐบาลสหรัฐให้กับต่างประเทศที่มีอยู่เกือบทั้งหมด” โพลิติโกกล่าว โดยอ้างถึงเอกสารภายใน
ตามข้อมูลของ Politico คำสั่งดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ "ตกใจ" และดูเหมือนว่าจะรวมถึงเงินที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนด้วย
ที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบสามปีของสงครามยูเครน สหรัฐให้ความช่วยเหลือยูเครนไปแล้ว$175,000ล้านเหรียญ หากรวมกับที่ประเทศนาโต้อื่นๆที่สมทบ เม็ดเงินช่วยเหลือทั้งหมดตกประมาณ $250,000ล้าน
หากยูเครนไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหรัฐ ยูเครนจะไม่สามารถทำสงครามกับรัสเซียต่อไปได้ ในขณะที่ทรัมป์ต้องการหาทางยุติสงครามยูเครน
ทรัมป์ต้องการตรวจสอบการคอรัปชั่นอีกด้วย เพราะว่าเงินช่วยเหลือต่างประเทศของรัฐบาลไบเดน คนในได้ประโยชน์อีกด้วย
IMCT News
--------------------------------------------------
ปูติน' เปิดทางถกปมยูเครน ชมทรัมป์ฉลาด-นโยบายมีเหตุผล 'เชื่อไม่ทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ'
25-1-2025
ปูตินเผย! พร้อมเจรจายูเครน แต่ติดขัดข้อกฎหมายห้ามเจรจาของเคียฟ 'ปูติน' ชี้ถ้าทรัมป์ไม่ถูกโกงเลือกตั้ง 2020 อาจไม่เกิดวิกฤตยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว Pavel Zarubin (พาเวล ซารูบิน) ที่กรุงมอสโก เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ถึงท่าทีของรัสเซียต่อความเป็นไปได้ในการเจรจากับสหรัฐอเมริกา หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นถึงโอกาสในการพบปะกับผู้นำรัสเซียและแนวทางยุติปัญหาในยูเครน
ผู้นำรัสเซียระบุว่า รัสเซียไม่เคยปฏิเสธการติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยชี้แจงว่าที่ผ่านมาตนมีความสัมพันธ์อันดีกับทรัมป์ในลักษณะที่เป็นทางการ มีเหตุผลในเชิงปฏิบัติ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ พร้อมแสดงความเห็นด้วยกับทรัมป์ว่า หากไม่มีการ "ขโมย" ชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2563 วิกฤตยูเครนในปี 2565 อาจไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปูตินย้ำว่าการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนในปัจจุบันมีอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากผู้นำเคียฟได้ออกคำสั่งห้ามการเจรจา ซึ่งในฐานะผู้จบการศึกษาด้านกฎหมาย เขามองว่าการเจรจาภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่จะถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผลลัพธ์ของการเจรจาอาจถูกประกาศว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายได้เช่นกัน
ผู้นำรัสเซียวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลเคียฟดูพอใจที่จะได้รับเงินสนับสนุนหลายแสนล้านจากชาติพันธมิตร และผลาญเงินเหล่านั้นโดยไม่สนใจอนาคต แทนที่จะเร่งดำเนินการตามคำสั่งของผู้สนับสนุนในการยกเลิกคำสั่งห้ามเจรจา
ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ปูตินชี้ว่ารัสเซียและสหรัฐฯ มีผลประโยชน์ร่วมกันในฐานะประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะในประเด็นราคาพลังงานที่ต้องไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
ท้ายที่สุด ผู้นำรัสเซียแสดงความเชื่อมั่นว่าทรัมป์ในฐานะผู้นำที่มีความฉลาดและมีแนวคิดในเชิงปฏิบัติ จะไม่ตัดสินใจใดๆ ที่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะพบปะหารือบนพื้นฐานของความเป็นจริงในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ
---
IMCT NEWS
ที่มาhttp://en.kremlin.ru/events/president/news/76153