Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
25/05/2024
อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสล่า กล่าวว่า เขาคัดค้านที่สหรัฐไปเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน คำพูดของมัสก์มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ขึ้นภาษีรถ EV ที่นำเข้าจากจีนถึง 4 เท่า
มัสก์กล่าวในการประชุมเทคโนโลยีในกรุงปารีสผ่านวีดีโอลิงก์ว่า ทั้งเขาและเทสล่าไม่ได้ขอให้เก็บภาษีจากสินค้าเหล่านี้
ความเห็นของมัสก์ขัดแย้งกับคำเตือนที่เขาเคยเอ่ยไว้เมื่อเดือนมกราคม (2024) ว่าผู้ผลิตรถยนต์จีนจะมา "ทำลาย" คู่แข่งจากประเทศอื่น ๆ ถ้าไม่มีกำแพงการค้ามากั้นขวางไว้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐพูดถึงมาตรการใหม่ ซึ่งก็รวมถึงการเก็บภาษีรถ EV จากจีน 100% ว่า เป็นการตอบสนองต่อนโยบายที่ไม่ยุติธรรมและมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องตำแหน่งงานในสหรัฐฯ
แต่เจ้าของเทสล่าก็กล่าวว่า เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อมีการประกาศมาตรการดังกล่าว เพราะการขัดขวางเสรีภาพในการซื้อขายหรือการบิดเบือนตลาดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก
เขาเสริมด้วยว่า เทสล่าแข่งขันได้ค่อนข้างดีในตลาดจีนโดยไม่มีภาษีและไม่มีการอนุโลมใดใด ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีรถของจีน
ไบเดนยังคงเก็บภาษีสินค้าจีนตามที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนก่อนเคยนำมาใช้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงกดดันทางการค้าต่อจีนด้วย
ไบเดนให้คำมั่นว่า จะไม่ยอมให้จีนมาคุมตลาดอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะตลาดยานยนต์ EV และสินค้าสำคัญอื่น ๆ รวมถึงแบตเตอรี่ ชิปคอมพิวเตอร์ และเวชภัณฑ์ขั้นพื้นฐาน
ทางด้านจีนก็ออกมาประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีและจะใช้มาตรการตอบโต้กับเรื่องนี้
สัปดาห์นี้ จีนเริ่มใช้มาตรการตรวจสอบการทุ่มตลาดพลาสติกที่ใช้กันแพร่หลาย ซึ่งนำเข้ามาจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ไต้หวัน และญี่ปุ่น
กระทรวงพาณิชย์จีน ประกาศว่า จะเข้ามาตรวจสอบการนำเข้าพลาสติก Polyformaldehyde Copolymer ซึ่งใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ ถือเป็นสัญญาณว่าจีนจะตอบโต้ข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ และยุโรป
นอกจากนี้ จีนยังส่งสัญญาณว่าอาจเก็บภาษีรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งนำเข้าจาก สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ด้วยอัตราที่สูงถึง 25%
หอการค้าจีนประจำสหภาพยุโรป กล่าวว่า แหล่งข่าววงในได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบแล้ว
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งดูแลนโยบายการค้าของสหภาพยุโรป ก็ได้กำหนดเส้นตายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2024 เพื่อตัดสินว่าจะใช้มาตรการต่อต้านการนำเข้ารถยนต์ EV ที่ผลิตในจีนหรือไม่
By IMCT NEWS
แหล่งข้อมูล: https://www.bbc.com/news/articles/cq55zd2xjreo
© Copyright 2020, All Rights Reserved