สภาตรายางจีนจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ ?
รัฐบาลจีนกำลังถูกกดดันอย่างหนักให้หาทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ด้วยเหตุนี้ ประชาชนต่างจับจ้องไปที่สภาประชาชนแห่งชาติจีน เพื่อดูว่า จะมีข้อเสนอในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือไม่ ในการประชุมซึ่งจะเปิดฉากวันพรุ่งนี้ ( 5 มีนาคม 2024 )
สมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีน จำนวนเกือบ 3,000 คน จะเดินทางมาประชุมประจำปีร่วมกัน ยาวนานเกือบ 1 สัปดาห์ ภายในอาคารมหาศาลาประชาคม ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อผ่านกฎหมาย อนุมัติการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่และมอบหมายงานของคณะรัฐบาลลงไปสู่หน่วยงานระดับล่างต่อไปซึ่งจะประชุมกันต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่แล้ว การตัดสินใจทางการเมืองมักทำมาก่อนหน้านี้แล้ว ภายในห้องที่ปิดซ่อนไว้ไม่ให้บุคคลภายนอกได้รู้เห็น
แต่อย่างน้อย การประชุมสภาตรายางนี้ ก็อาจจะมีถ้อยแถลงใดใด ให้ทั่วโลกได้จับตาถึงความเปลี่ยนแปลงในพรรคและความเชื่อมโยงระหว่างจีนกับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอุตสาหกรรม หรือ การออกกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่
แต่โดยหลักๆ แล้ว การประชุมในลักษณะนี้ ก็ไม่ได้มีใจความสำคัญอะไรมากไปกว่า การตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะต้องปกครองจีนยืนยาวต่อไป และสีจิ้นผิง ผู้นำคนปัจจุบัน ก็ถือเป็นผู้นำสูงสุดในเกือบทุกมิติชีวิตของชาวจีน
ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เราอาจเห็นความคึกคักของเศรษฐกิจจีน และการปรับปรุงมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เรียกได้ว่า พลิกฟื้นกันแบบปีต่อปีเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจจีน ถูกกีดขวางไว้ด้วยวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ ทำให้หลายครอบครัวได้แต่ผ่อนจ่ายห้องชุดพักอาศัย แต่ไม่เคยถึงวันที่ได้เป็นเจ้าของจริงๆ เสียที ยังมีนักศึกษาจบใหม่อีกเป็นโขยงที่หางานดีดีทำไม่ได้ ตามมาด้วยภาระหนี้สินก้อนใหญ่ที่รัฐบาลท้องถิ่นก่อไว้ ทำให้การแก้ปัญหาของรัฐที่ใช้วิธีอัดฉีดงบเข้าสู่ระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างที่เคยทำมาตลอด แทบไม่ได้ผล
จีนเคยใช้วิธีสร้างถนน สร้างสะพาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน หรือนำปริมาณเหล็กและคอนกรีตส่วนเกินมาใช้ให้หมด แต่วิธีแก้ปัญหาแบบนี้ ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงในยุคที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนสูงเช่นนี้
นักวิเคราะห์มองว่า การประชุมของสภาประชาชนแห่งชาติจีนในปีนี้ มีขึ้นท่ามกลางความไม่ปกติเสียจริงๆ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ มีข่าวลือว่า รัฐบาลจีนจะออกแถลงการณ์ชุดใหญ่ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต เพราะประชาชนเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิตความเป็นอยู่ และนโยบายที่สีจิ้นผิงวางไว้ หรืออาจจะได้เห็นการออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมภาคเอกชนให้มากขึ้น
มีอยู่คำหนึ่งที่สีจิ้นผิงเน้นย้ำในช่วงปลายปีที่แล้ว ( 2023 ) ซึ่งเชื่อมโยงกับทิศทางของประเทศโดยตรง นั่นก็คือ “ พลังการผลิตในรูปแบบใหม่ “ และมีแนวโน้มที่สีจิ้นผิงจะพูดคำนี้อีกในการประชุมที่จะเกิดขึ้น
นักวิเคราะห์มองว่า สีจิ้นผิงน่าจะหมายถึง การพัฒนาและเทคโนโลยีการพาณิชย์ ตลอดจนวิทยาศาสตร์ การเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการผลิตในระดับสูง เพื่อหลอมรวมให้เกิดเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่การจะทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้ ยังต้องใช้เวลา เพราะเศรษฐกิจจีนในภาคเทคโนโลยียังค่อนข้างเล็ก และจีนยังเผชิญความท้าทายบางอย่างอยู่ ในระยะสั้น จีนน่าจะยังแก้ปัญหาในแบบเดิม ก็คือ การทุ่มงบไปที่การสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์
สีจิ้นผิง เคยพูดถึงคำว่า “ พลังการผลิตในรูปแบบใหม่ “ ว่า หมายถึงการปลดแอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาผลผลิตในแบบเดิมๆ ทำให้เห็นว่า ในอนาคต พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะหันไปมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีระดับสูงอย่างเต็มตัว ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเท่ากับว่า สีจิ้นผิงมุ่งมั่นจะประคับประคองเศรษฐกิจ ที่กำลังย่ำแย่จากภาคอสังหาริมทรัพย์และความตึงเครียดทางการค้ากับชาติตะวันตก
...