ฟิลิปปินส์ยังตรึงกำลังในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง
36 0C
Thailand
Thailand
ขอบคุณภาพจาก Philippine Daily Inquirer
17/9/2024
รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า จะส่งเรืออีกลำไปที่สันดอนเอสโคดา (ซาบินา) เพื่อทดแทนเรือของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ (PCG) ที่กลับมาถึงท่าเรือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ก.ย.) หลังส่งกำลังบำรุงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบริเวณที่เกิดข้อพิพาทในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก
เรือ BRP Teresa Magbanua ยาว 97 เมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดของ PCG ซึ่งใช้เวลา 5 เดือนในการทอดสมอที่สันดอนเอสโคดาเพื่อคอยตรวจสอบจีน ได้ถูกดึงออกมาเพื่อซ่อมแซมและบำรุงรักษา และเพื่อให้ลูกเรือได้พักผ่อน
ด้านโฆษกของ National Maritime Council (NMC) นาย Alexander Lopez ยืนยันกับ PCG ว่าจะเปลี่ยนเรือ Magbanua ด้วยเรือลำอื่น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใด
“ตอนนี้ผมไม่สามารถเปิดเผยเรื่องปฏิบัติการได้ สิ่งที่เราสามารถระบุได้คือ เราจะยังคงรักษาการมีอยู่ของเราไว้ และเราจะคอยติดตามและบันทึกกิจกรรมผิดกฎหมายใดๆ หรือทั้งหมดของอีกฝ่ายเพื่อจุดประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ของเรา” Lopez กล่าวโดยพาดพิงถึงจีน พร้อมระบุว่า เรือทดแทน Magbanua กำลังมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่เกาะเอสโคดา
“คำสั่งของผู้บังคับบัญชาคือให้เรือออกเดินทางทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ทะเลมีคลื่นแรง” Lopez กล่าวเสริม โดยหมายถึงพลเรือเอก รอนนี่ กิล กาแวน
ขณะเดียวกัน NMC จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าการยึดครองแนวปะการังสกาโบโรห์ของจีนในปี 2012 จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกในเอสโคดา
“กรณีแนวปะการังสการ์โบโรห์เป็นบทเรียนสำหรับเรา ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีมติอีกครั้งว่า เราจะยังคงดำเนินการต่อไปไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และเราจะยังคงตรวจสอบและบังคับใช้สิทธิต่างๆ ของเรา ใช้สิทธิ อำนาจอธิปไตย และเขตอำนาจศาลเหนือพื้นที่ดังกล่าวต่อไป”
เหตุการณ์ตึงเครียดในปี 2012 ส่งผลให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการกรุงเฮก ซึ่งในปี 2016 ศาลได้ตัดสินให้การเรียกร้องที่กว้างขวางและมีประวัติศาสตร์ยาวนานของจีนเป็นโมฆะ แต่ปักกิ่งปฏิเสธที่จะรับรองคำตัดสินดังกล่าว
การที่จีนปิดกั้นเรือฟิลิปปินส์ที่พยายามส่งเสบียงเพิ่มที่เกาะเอสโคดาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ PCG ต้องส่งเสบียงทางอากาศโดยใช้เฮลิคอปเตอร์เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม โดยการส่งเสบียงครั้งสุดท้ายของ PCG โดยใช้เรือมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เรือ Magbanua ได้จอดทอดสมออยู่ภายในแนวปะการังตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน เพื่อตอบสนองต่อการปรากฏตัวของเรือจีนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมการถมทะเลที่น่าสงสัยในพื้นที่
ขณะเดียวกัน 31 สิงหาคมถือเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเรือ Magbanua หลังจากเรือของหน่วยยามฝั่งจีนพุ่งชนเรือโดยตั้งใจและซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่กำลังยกสมอเรือ "เพื่อตั้งใจจะล่องไปรอบๆ" แนวปะการัง ทำให้เรือ Magbanua ได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
การเคลื่อนไหวเพื่อทดแทนเรือ Magbanua มีแนวโน้มที่จะทำให้จีนไม่พอใจ เนื่องจากปักกิ่งเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ถอนเรือลำดังกล่าวที่จีนอ้างว่า "ถูกทิ้งไว้บนเกาะปะการังอย่างผิดกฎหมาย" ออกไป ซึ่งจีนอ้างว่าตนเป็นเจ้าของในฐานะส่วนหนึ่งของการอ้างสิทธิ์ในเกือบทั้งเกาะทะเลจีนใต้ ขณะที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า เกาะเอสโคดาอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของประเทศ โดยมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เนื่องจากสามารถเข้าถึงสันดอนโธมัสที่สองได้
นอกจากนี้ แนวปะการังยังทำหน้าที่เป็นจุดพบปะระหว่างเรือ PCG และกองทัพเรือฟิลิปปินส์ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่งกำลังบำรุงไปยังสันดอนโธมัสที่สอง ซึ่งกองทัพเรือฟิลิปปินส์เก็บเรือ BRP Sierra Madre ไว้ โดยเรือลำนี้ถูกนำไปเกยตื้นที่นั่นโดยตั้งใจในปี 1999 เพื่อใช้เป็นฐานทัพหน้าของฟิลิปปินส์
IMCT News
ที่มา https://asianews.network/philippine-coast-guard-pulls-out-vessel-from-contested-shoal/
