Thailand
3/3/2024
ในบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกในยุคปัจจุบัน นาย Sergey Glazyev ได้รับการยอมรับว่าโดดเด่นที่สุด แม้ว่าชื่อของเราจะไม่ ค่อยเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่าเขาเป็นชาวรัสเซียน และเป็นที่ ปรึกษาของประธานาธิบดีวราดิเมียร์ ปูตินในเรื่องการสร้างเงินสกุลร่วมของบริกส์
สื่อตะวันตกแทบที่จะไม่เคยรายงานเกี่ยวกับนายกลาซเยฟแต่เขาเป็นบุคคลที่ สำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องจับตามองในเวลานี้ เนื่องจากเขาเป็นมันสมองหลัก ของรัสเซีย และกลุ่มประเทศ BRICS ในการวางโครงสร้างทางการเงินใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเงินสกุลร่วมของ BRICS เพื่อที่จะออกจาก อิทธิพลของดอลล่าร์ และนำพา BRICS และประเทศที่กำลังพัฒนาเข้าสู่ยุค เปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบเศรษฐกิจโลกใหม่
นายกลาสเยฟในปัจจุบันนี้มีอายุ 62 ปี เกิดที่ยูเครน เขาเป็นท้ังนักการเมือง และนักเศรษฐศาสตร์ โดยเรียนหนังสือที่ Moscow State University เขา เป็นสมาชิกของสภาการเงินแห่งชาติของธนาคารกลางรัสเซีย เขาเคยร่วม งานกับอดีตประธานาธิบดีบอริส เยลซิน โดยรับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านความ สัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และต่อมาได้เป็นสมาชิกของสภาดูมา อีกด้วย เขาเคยลงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2004 นับต้ังแต่ตั้งแต่ปี 2021 เขาเป็นมันสมองหลักของฝ่ายบริหารของ Eurasian Economic Commission องค์กรที่ดูแล Eurasian Economic Union ซึ่งประกอบ ด้วยรัสเซีย เบลารุส คาซัคห์สถาน กีร์จีซสถาน และอาร์เมเนีย
นายกลาสเยฟอธิบายการสร้างเงินสกุลร่วมของ BRICS ว่ามีขั้นดอนดังต่อ ไปนี้:
เฟส 1 ของการเปลี่ยนถ่ายออกจากอิทธิพลของยูเอสดอลล่าร์ กำลังได้เห็น ประเทศในกลุ่มบริกส์ และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆหันมาใช้เงินสกุลของตัว เองในการค้าขาย หรือทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างกันมากขึ้น โดยจะมี กลไกทางด้านระบบเคลียริ่งทางการเงิน และการทำการสว็อปทางการเงินใน รูปแบบทวิภาคีควบคู่กันไปอีกด้วย ขบวนการนี้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
หลังจากที่รัสเซียถูกสหรัฐและยุโรปยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปกว่า $300,000 ล้านในปี 2022 ประเทศต่างๆจะมีแรงจูงใจน้อยลงในการถือ ครองดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ หรือเยน ที่เป็นเงินสกุลของมหาอำนาจตะวันตก เพราะไม่รู้ว่าจะถูกยึดทรัพย์แบบรัสเซียเมื่อใดก็ได้
ในเฟส 2 จะมีการสร้างกลไกทางด้านราคาใหม่ โดยไม่เกี่ยวข้องกับยูเอสด อลล่าร์ ในปัจจุบันนี้ ราคาของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆถูกกำหนดโดยมาก โดยตลาดรองต่างๆที่โค๊ดราคากันเป็นยูเอสดอลล่าร์ แม้ว่าการกำหนดราคา ใหม่โดยใช้เงินสกุลท้องถิ่นจะมีค่าโสหุ้ยสูง แต่มันจะคุ้มกว่าการพึ่งพาเงิน ดอลล่าร์ที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง รวมท้ังเงินยูโร ปอนด์ หรือเยน
ส่วนเงินหยวนจะไม่ทำหน้าที่เป็นเงินสกุลหลักของโลกเหมือนดอลล่าร์ เพราะ ว่าจีนจะยังคงไม่เปิดเสรีทางการเงิน เงินหยวนยังไม่สามารถแปลงค่าเป็นเงิน สกุลอื่นอย่างเสรี และรัฐบาลจีนยังควบคุมเงินนอกไม่ให้เข้าถึงตลาดทุนจีน เพื่อป้องกันการเก็งกำไรทางการเงิน
เฟสที่ 3 จะมีการสร้างเงินดิจิตัลใหม่ผ่านข้อตกลงระหว่างประเทศของ BRICS เพื่อการชำระเงิน ทำให้เงินสกุลร่วมดิจิตัลของบริกส์จะเป็นเงินที่ใช้ ในระบบการชำระเงิน (payment currency) หรืออาจจะเป็นเงิน (reserve currency) ก็ได้่ในอนาคต
การสร้างเงินสกุลร่วมเพื่อใช้ในระบบชำระเงินจะอ้างอิงจากตระกร้าเงินของ กลุ่มบริกส์ ที่แต่ละประเทศสมาชิกจะลงขันเอาเงินสกุลของตัวเองมากองรวม กันเป็นเงินกองทุน โดยที่ประเทศอื่นๆอาจจะมาร่วมทีหลังก็ได้ จะมีการ กำหนดสัดส่วน หรือน้ำหนักของเงินตราของแต่ละประเทศที่จะใส่เข้าตระกร้า เงิน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆที่กำหนดขึ้นมา เช่นขนาดของจีดีพี ส่วนแบ่งของ การค้าระหว่างประเทศ ขนาดประชากร หรือขนาดของดินแดนของประเทศ แน่นอนเงินหยวนของจีนจะมีบทบาทสำคัญที่สุด เพราะว่าจีนมีขนาด เศรษฐกิจใหญ่ที่สุด และพัฒนามากที่สุดเมื่อเทียบกับสมาชิกของ BRICS
นอกจากนี้ จะมีอีกตระกร้าหนึ่งที่เป็นดัชนีของสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำหนดโดย ตลาดรองที่เป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ โลหะที่มีค่า น้ำมัน ก๊าซ ธรรมชาติ ธัญญพืช หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ทำให้เงินสกุลร่วมของบริก
ส์จะได้รับการหนุนโดยสกุลเงินของสมาชิกบริกส์ และสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีค่า และจับต้องได้ แตกต่างจากเงินกระดาษปัจจุบันในระบบดอลล่าร์
แต่มีนักวิเคราะห์บางคนมองว่าใช้ทองคำอย่างเดียว จะสะดวกมากกว่า เพราะว่าถ้าใช้สินค้าโภคภัณฑ์อย่างอื่นด้วยจะทำให้ยุ่งยากในคำนวนน้ำ หนัก หรือการบริหารจัดการ
สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการเงินสกุลร่วม BRICS จะมีความจำเป็นใน การสร้างสถาบันการเงินที่จะทำหน้าที่คล้ายกับกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ ที่มีเงินในรูปบัญชี Special Drawing Rights (SDR) ใช้อยู่ใน ปัจจุบัน โดยเงิน SDR อิงตระกร้าเงินที่ประกอบด้วยดอลล่าร์ ยูโร หยวน เยน และปอนด์ ด้วยเหตุนี้ บริกส์จะต้องต้ังองค์กรขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลการ บริหารจัดการเงินสกุลร่วม
อย่างไรก็ตาม BRICS จะต้องมีการยกเครื่องเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ถ้าหากต้องการจะสร้างระบบการเงินโลกใหม่ โดยจะต้องทะยอยขายทิ้งดอล ล่าร์ ยูโร ปอนด์และเยน แล้วหันมาถือเงินสกุลท้องถิ่นที่เป็นคู่ค้ากันและ ทองคำ รวมท้ังเพิ่มบทบาทสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะใช้หนุนค่าเงิน
© Copyright 2020, All Rights Reserved