Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
23/9/2024
Jamie Dimon ซีอีโอเจพีมอร์แกน ให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ เตือนวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐอาจย่ำแย่ยิ่งกว่าคำว่า เศรษฐกิจถดถอยเสียอีก ซึ่งเมื่อวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐก็เลือกที่จะลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มผ่อนคลาย เข้าใกล้ 2% ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เพียงเท่านี้ ก็ยังไม่สามารถซ่อมแซมเศรษฐกิจที่เปราะบางของสหรัฐได้ และเศรษฐกิจสหรัฐยังเสี่ยงที่จะเลวร้ายกว่านี้อีก ในช่วงที่สหรัฐก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเศรษฐกิจขาลงแบบรุนแรง
เศรษฐกิจสหรัฐวุ่นวายหนักขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐจึงหาวิธีรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี จนเมื่อไม่นานมานี้ ที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า ได้เวลาลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็ยังคงวิตกถึงสภาพเศรษฐกิจอยู่ดี
และหนึ่งในนั้นก็คือ Jamie Dimon ซีอีโอเจพีมอร์แกน ซึ่งก็เคยออกมาเตือนวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว ในช่วงที่เกิดความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์จากการก่อตัวของ BRICS และเมื่อไม่นานมานี้ เขายังเตือนให้ระวังว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง ถือเป็นสัญญาณของเศรษฐกิจผิดปกติ และชะตากรรมในครั้งนี้ อาจเลวร้ายกว่าคำว่า เศรษฐกิจถดถอยเสียอีก
เขายืนยันว่า ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดสิ่งนี้ขึ้นได้ ความเลวร้ายยิ่งกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือเงินเฟ้อพุ่งสูง เป็นเรื่องที่ยังน่าวิตกมากๆ ภาวะขาดดุลที่พุ่งขึ้น บวกกับภาระจับจ่ายของภาครัฐที่สูงขึ้น ล้วนแต่ซ้ำเติมแรงกดดันต่อเศรษฐกิจซึ่งก็เปราะบางอยู่แล้ว
Dimon บอกว่า เงินเฟ้อจะยังมีอยู่อีก 2-3 ปี ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาโดยตลอด จึงต้องใช้เวลาอยู่บ้างกว่าที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ส่วนการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ แล้วคิดว่า จะช่วยให้พ้นจากปัญหาได้นั้น เขาไม่คิดเช่นนั้น
สถานะของสหรัฐยังถูกท้าย จากแนวคิดถอยห่างดอลลาร์ของ BRICS เป็นการรวมตัวของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาแก้ปัญหา ความโดดเด่นของเงินดอลลาร์สหรัฐจึงอาจถูกคุกคามในระยะยาว
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/jpmorgan-ceo-warns-of-us-economic-crisis-as-brics-power-grows
© Copyright 2020, All Rights Reserved