31/5/2024
Dmitry Suslov สมาชิกสภานโยบายการต่างประเทศและการป้องกันประเทศรัสเซีย แนะนำให้รัสเซียการสาธิตการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ทำอันตรายกับใคร แล้วถ่ายทอดทีวีสดไปทั่วโลกผ่านทุกช่องทางเพื่อว่านักการเมืองตะวันตกที่ต้องการก่อสงครามกับรัสเซียจะได้มีสติกลับคืนมาบ้าง
เขาบอกว่ารูปเมฆที่ก่อตัวเป็นดอกเห็ดจากปฏิกิริยาของแรงระเบิดนิวเคลียร์จะสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา และทางการเมือง และจะทำให้นักการเมืองตะวันตกกลับมากลัวสงครามนิวเคลียร์ หลังจากที่ได้ลืมไปแล้วว่าสิ่งที่ป้องกันสงครามโลกหลังปี 1945คือความกลัวอาวุธนิวเคลียร์ที่อาจจะถูกใช้
นอกจากจะเป็นสมาชิกสภานโยบายการต่างประเทศและการป้องกันประเทศรัสเซียแล้ว Suslovยังเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจโลกและการเมืองระหว่างประเทศที่โรงเรียนเศรษฐศาสตร์ชั้นสูงของมอสโก และเป็นผู้เชี่ยวชาญของ Valdai Clubอีกด้วย
เขาเขียนบทความ “It’s time for Russia to drop a nuclear bomb” เผยแพร่ในprofile.ru เพื่อตอบโต้ท่าทีของนาโต้ รวมทั้งสหรัฐที่ต้องการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยกลาง และไกลให้กับยูเครนเพื่อเป้าตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียโดยตรง ทำให้ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียสั่งการให้ทหารหน่วยอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิคซ้อมรบเพื่อเตรียมความพร้อมในการตอบโต้
Suslovเขียนว่า ตั้งแต่แรกเริ่มของสงครามยูเครน ชาติตะวันตกให้ความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครน โดยมีเงื่อนไขว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ส่งมอบให้ต้องใช้ในการป้องกันตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อโจมตีดินแดนของรัสเซีย เพราะว่าจะทำให้ตะวันตกกลายเป็นคู่กรณีกับรัสเซียทางสงคราม
แต่เงื่อนไขนี้กำลังเปลี่ยนไป อันเห็นได้จากสื่อThe New York Times รายงานว่า ผู้ที่หนุนให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธของตะวันตกเพื่อโจมตีดินแดนของรัสเซียมีทั้งแอนโทนี บลิงเคน รมว. ต่างประเทศสหรัฐ สมาชิกสภาคอนเกรซสายรีพับรีกันส่วนใหญ่ รวมทั้งไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้ที่ดูแลนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ รวมทั้งวิคตอเรีย นูแลนด์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
ในยุโรป โปแลนด์ กลุ่มประเทศบอลติก พรรคฝ่ายค้านเยอรมันนี CDU/CSU รวมทั้งเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษก็เห็นดีเห็นงามกับข้อเสนอที่จะมอบขีปนาวุธให้ยูเครนเพื่อโจมตีดินแดนรัสเซีย นอกจากนี้ จังส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการของนาโต้ก็พูดอย่างออกหน้าออกตาว่ายูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธตะวันตกเพื่อโจมตีรัสเซียโดยตรงได้ โดยเชื่อได้ว่าสโตลเตนเบิร์กออกมาพูดเพราะว่าได้แรงสนับสนุนจากวอชิงตัน ดีซี
Suslov เขียนอธิบายว่า มีสาเหตุสำคัญสองประการที่ทำให้ตะวันตกเปลี่ยนท่าทีในการสนับสนุนให้ยูเครนโจมตีดินแดนของรัสเซีย โดยรู้ทั้งรู้ว่ามันจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
ประการแรก ยูเครนกำลังเพลี่ยงพล้ำในการทำสงครามกับรัสเซีย ผู้นำนาโต้พูดมาตลอดว่าผลของสงครามไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อยูเครนเท่านั้น แต่สำหรับตะวันตกอีกด้วย เพราะว่ามันจะมีผลกระทบต่อการสร้างระเบียบโลกใหม่ หรือพูดในอีกแง่หนึ่ง ตะวันตกให้ความสำคัญของสงครามยูเครนเท่ากับสงครามโลก เพราะฉะนั้นความพ่ายแพ้ของเคียฟ ก็จะเท่ากับกับความพ่ายแพ้ของตะวันตกที่ควบคุมระเบียบโลกปัจจุบันไปด้วย
ประการที่สอง รัสเซียไม่เต็มใจที่จะขยายความขัดแย้งกับตะวันตกทุกครั้งที่ตะวันตกข้ามเส้นแดง ไม่ว่าจะเรื่องการส่งมอบรถถัง เครื่องบินรบ และในที่สุดขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับยูเครน ด้วยเหตุนี้ ตะวันตกที่เกรงกลัวว่าความขัดแย้งจะขยายวงจึงไม่รู้สึกเกรงกลัวอีกต่อไป เพราะคิดว่ารัสเซียไม่แน่จริง
ด้วยเหตุนี้ ตะวันตกจึงเชื่อว่าการส่งอาวุธให้ยูเครนยิงไปยังเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย จะไม่ถูกรัสเซียตอบโต้ เพราะว่ารัสเซียไม่ต้องการเสี่ยงให้สงครามขยายวงกับตะวันตก จึงย่ามใจด้วยแผนการส่งทหารนาโต้เข้ายูเครนเพื่อช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย แม้ว่ารัสเซียจะขู่กลับว่าจะตอบโต้ด้วยการการถล่มเป้าหมายของประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฐานทัพของสหรัฐทั่วโลก
Suslov สรุปว่า ท่าทีของตะวันตกที่เปลี่ยนไปในความขัดแย้งของยูเครนจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันจะเป็นสงครามนิวเคลียร์ในท้ายที่สุด
“เพื่อยืนยันความจริงจังในความตั้งใจของรัสเซีย และเพื่อโน้มน้าวศัตรูของเราเกี่ยวกับความเต็มใจของมอสโกที่จะขยายวงของสงคราม สมควรที่จะมีการพิจารณาใช้การระเบิดด้วยนิวเคลียร์ (โดยไม่ทำร้ายใคร) เพื่อสร้างผลกระทบทางการเมืองและจิตวิทยาของปรมาณูที่ก่อตัวเป็นเมฆรูปเห็ดผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องทั่วโลก หวังว่าจะนำสิ่งหนึ่งให้นักการเมืองตะวันตกที่ขัดขวางการทำสงครามระหว่างมหาอำนาจหลังปี 1945 และซึ่งพวกเขาได้สูญเสียไปแล้วไปมากแล้วในตอนนี้ – คือความกลัว ของสงครามนิวเคลียร์” Suslovเขียน
IMCT News
ที่มา RT