พระราชกรณียกิจหนึ่งที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้อำนาจพิพากษาคดีและแต่งตั้งศาลตุลาการ เพื่อพิจารณาตัดสินคดีให้เป็นไปอย่างยุติธรรม และความผาสุกของประชาชน

    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงกำหนดการใช้อำนาจทางศาลยุติธรรม คือการแต่งตั้งผู้พิพากษา เพื่อพิจารณาอรรถคดีในพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับกิจการของศาลยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารศาลยุติธรรม และเปิดอาคารศาลยุติธรรม เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมศาลยุติธรรม การทรงนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี และพระราชกรณียกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานประจำศาล ก่อนออกไปปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรก มีความสำคัญอย่างยิ่ง ให้เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัส เพื่อเป็นแนวทางต่อการปฏิบัติงาน ดังเช่น เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ณ ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา ใจความว่า

     “ความยุติธรรมเป็นพื้นฐานของความสงบสุข หากปรารถนาจะให้ประเทศมีความสงบสุข ก็ต้องอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ท่านทั้งหลายผู้เป็นผู้พิพากษามีหน้าที่โดยตรงในการดำรงรักษาความยุติธรรมในแผ่นดิน จึงต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณของตนอย่างเคร่งครัด และตั้งใจพิจารณาเรื่องราวข้อขัดแย้งต่างๆ ด้วยวิจารญาณที่ถูกต้อง ในการนี้ ความรู้ในตัวบทกฎหมาย ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ทุกคนจำเป็นต้องสำนึกตระหนักด้วยว่าการใช้กฎหมายเพื่อผดุงรักษาความยุติธรรมให้ได้แท้จริงนั้น ต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมตามเหตุตามผล ตามความเป็นจริงโดยไม่สวนทางกับศีลธรรม จริยธรรมของมนุษยธรรม ถ้าทำได้ดังนี้ ท่านก็สามารถรักษาคำปฏิญาณที่จะดำรงความยุติธรรมอันเป็นรากฐานสำคัญแห่งความสงบสุขของประเทศได้สำเร็จสมบูรณ์”...

พระราชกรณียกิจเหล่านี้ทรงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดขวัญ กำลังใจแก่ตุลาการผู้ปฏิบัติหน้าที่และอำนวยความยุติธรรม และขณะเดียวกันก็เป็นการอารักขาแก่ประชาชนในทุกพื้นที่มีว่ามีศาลยุติธรรมพิจารณาความทุกข์เรียบร้อยแล้ว

#ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
#พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๖รอบ

ที่มา : เพจพระลาน