30/7/2024
Hugo Salinas Price
ทุกวันนี้ ฟองสบู่หนี้ของโลกกำลังค่อย ๆ แฟบลง และก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ ...การชำระหนี้ดูมันช่างยากเหลือเกิน
ส่วนนักลงทุนทั่วโลกก็กำลังกังวลว่าทรัพย์สินของตน ที่เป็นเครื่องมือการเงิน (ที่ล้วนอยู่ในรูปคำสัญญา) จะเหลือแต่กระดาษคำสัญญาเท่านั้น พวกเขากำลังหาทางหนีเอาตัวรอด
ไม่มีธนาคารกลางชาติใดที่เคยเก่งแต่เพิ่มเงิน จะมีวิธีที่จะแก้เทรนด์นี้ได้เลย
บ้างก็กำลังหาวิธีเอาเงินใส่มือประชาชน (Quantitative Easing for the People) แบบโปรยกันทางเฮลิคอปเตอร์นั่นแหละ
และนั่นก็จะเป็น QE ครั้งสุดท้ายที่จะทำให้หนี้ระเบิดไปเลย
หลังจากลองแก้ปัญหาเงินตึงตัวของโลกมาหลายวิธีแล้ว สุดท้ายมันก็ต้องมาจบลงที่การปรับเพิ่มมูลค่าของทองคำที่เก็บอยู่ในรีเสิร์ฟนั่นแหละ ..(ผมเห็นเรื่องนี้และเก็บทองคำมาเกือบสิบปีแล้ว) ....เพราะทุกรัฐบาลทั่วโลกกำลังจนตรอก ก็ต้องหันมาพึ่งพาทองคำ ถ้าต้องการดำรงการค้าระหว่างกันให้คงอยู่ได้
การปรับเพิ่มมูลค่าทองคำในรีเสิร์ฟของธนาคารกลางทั่วโลก เป็นเพียงทางเลือกเดียวที่จะทำให้การค้ายังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การผลิต หรือการซัพพลายวัตถุดิบ
เมื่อเริ่มการค้าด้วยเงินที่อิงทองคำ จำนวนของทองคำที่แต่ละประเทศมีอยู่ไม่ใช่แฟคเตอร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเลย ...เพราะแค่ปริมาณทองคำที่มีอยู่..ถึงแม้จะไม่มาก ก็พอที่จะบริหารเศรษฐกิจไปได้แล้ว
เหตุผลก็คือ เมื่อเริ่มต้นจะใช้ทองคำเป็น monetary reserve ..จะยังไม่มีประเทศไหนสามารถบริหารให้ดุลการค้า (trade balance) ของตน เกินดุล (surplus) หรือขาดดุล (deficit) ได้ ...แรก ๆ ประเทศผู้นำเข้า (trade deficit) จะต้องส่งทองคำให้กับประเทศผู้ส่งออก (trade surplus)
แล้วเมื่อเริ่มขาดดุล ก็จะต้องรีบทำการลดค่าเงินของตนให้เหมาะสม แทนที่จะต้องสูญเสียทองคำมากไปอีก การลดค่าเงินจะเป็นการหยุดการนำเข้า และดีต่อการส่งออก ที่จะเป็นฝ่ายรับทองคำจากประเทศคู่ค้า
หลายประเทศก็อาจเลือกใช้วิธีเพิ่มเครดิตหรือปริมาณเงิน เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้า แต่จะไม่สามารถควบคุมดุลงบประมาณ** (budget balance) ให้สมดุลได้ ทำให้งบประมาณขาดดุล และทำให้การนำเข้ามากขึ้นจนต้องลดค่าเงินทันทีในที่สุด
**(อย่าสับสน trade balance กับ budget balance นะครับ)
ประเทศที่ผลิตทองคำได้เองจะได้เปรียบที่สุด เพราะสามารถกำหนดให้ทองคำที่ผลิตได้เพียงพอต่อการส่งชำระส่วนที่ขาดดุล deficit การค้า
ดังนั้น การปรับเพิ่มมูลค่าให้ทองคำ..จะให้ผลดีต่อการฟื้นฟูสภาพให้กับโลก นั่นคือดุลการค้าของโลก และดุลงบประมาณของชาติต่าง ๆ ในโลก ...ที่เสียหายไปในศตวรรษที่ผ่านมา
วินัยที่เกิดขึ้นจากรีเสิร์ฟทองคำที่หนุนค่าให้ currency จะฟื้นฟูระเบียบใหม่ให้กับโลก แบบที่ไม่มีอะไรอื่นจะมาทำให้ได้
เราไม่ต้องรู้ถึงปริมาณทองคำที่ประเทศต่าง ๆ ถืออยู่ เพราะมันถูกเก็บเป็นความลับ ...และเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องรู้ ....แค่รู้ว่ามีอยู่ในคลังของธนาคารกลางประเทศนั้น ๆ เพียงพอ ...เท่านั้น
แล้วเราก็ไม่ต้องรู้ว่าราคาทองคำในเทอมของดอลลาร์เป็นเท่าไหร่ เพราะถ้าต้องการชำระหนี้ดอลลาร์ที่มีอยู่ ราคาในเทอมดอลาร์ก็ยิ่งต้องสูง
แต่ยิ่งราคาทองคำในเทอมดอลลาร์..สูงมากเท่าไหร่ เครื่องมือทางการเงิน (ตราสารหนี้) ที่มีอยู่เดิมก็ยิ่งเจ๊งมากขึ้นเท่านั้น ...ค่าของทองคำที่ยิ่งปรับสูงขึ้น ก็จะยิ่งไปลดน้ำหนักของหนี้ที่มีอยู่ทั่วโลกได้มากขึ้น ...นี่ไม่ใช่ช่วงที่ดีของเจ้าหนี้เลย
การปรับค่าทองคำสูงขึ้น ไม่ได้หมายความว่าสินค้าและทรัพย์สินทั้งหลายจะมีราคาสูงตามทองคำมาได้ทันทีนะ ส่วนใหญ่แล้วราคาจะอยู่ที่เดิมก่อนปรับค่าทองนั่นแหละ ...ราคามันจะปรับสะท้อนตามเศรษฐกิจใหม่เองทีหลัง ...ทรัพย์สินหลายอย่างที่คนเคยให้ราคากันแบบเว่อร์ ๆ อาจจะหายไปเลย เพราะมันไม่เคยมีมูลค่า
ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันจะต้องกำหนดราคาอิงทองคำของน้ำมันส่งออก กับราคาอิงทองคำของสิ่งที่อิมปอร์ต รวมทั้งมูลค่าการลงทุนที่อิงทองคำ
IMCT News
อ้างอิง https://www.facebook.com/profile.php?id=100063620406722