ขอบคุณภาพจาก LinkedIn.com
5/10/2024
Sundar Pichai ซีอีโอ Google ระบุว่า Google กำลังพิจารณาวิธีนำไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปยังศูนย์ข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานมหาศาลของโครงการปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งความคิดริเริ่มของ Google อาจจุดประกายการพัฒนาแหล่งพลังงานปลอดคาร์บอนอีกครั้ง
เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว Pichai ระบุว่า Google จะเพิ่มการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานความร้อนด้วย
บริษัทสัญชาติอเมริกันแห่งนี้กำลังเพิ่มการลงทุนในศูนย์ข้อมูลเพื่อพัฒนาและดำเนินการโครงการ AI เชิงสร้างสรรค์ให้ดียิ่งขึ้น โดย Alphabet บริษัทแม่ เพิ่มเงินลงทุนประมาณ 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 13,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดือนเมษายนถึงมิถุนายนตามกระแสเงินสด
“เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเราที่เรามีเทคโนโลยีพื้นฐานชิ้นเดียวที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน” Pichai กล่าวถึง AI เชิงสร้างสรรค์ “ผมคิดว่าโอกาสที่จะทำได้ดีที่นี่เป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่น”
ส่วนคำวิจารณ์จากบางฝ่ายที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์มากเกินไป Pichai มองว่า “ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแพลตฟอร์ม คุณจะลงทุนอย่างไม่สมส่วนมากขึ้นในช่วงเริ่มต้น จากนั้นคุณก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในภายหลัง”
สำหรับ Google มีเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในทุกการดำเนินงานและห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2030 แต่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในปี 2023 นั้นมากกว่าในปี 2019 ถึง 48% เมื่อเทียบเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์คือผู้ร้าย เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการพยายามรักษาแหล่งพลังงานและลดการปล่อยก๊าซในเวลาเดียวกัน
“มันเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมาก” Pichai กล่าวถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ “และเราจะยังคงทำงานอย่างทะเยอทะยานเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวต่อไป” ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแนวทางการลงทุนด้าน AI ได้เพิ่มขนาดของงานที่จำเป็น โดย “ตอนนี้เรากำลังมองหาการลงทุนเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ และประเมินเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก เป็นต้น”
แม้ Pichai จะไม่ได้กล่าวถึงว่า Google จะเริ่มจัดหาไฟฟ้าที่ผลิตจากนิวเคลียร์ที่ไหนและเมื่อใด แต่บางส่วนอาจมาจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทและ Amazon.com ซึ่งเป็นคู่แข่งด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (2024) Amazon ตัดสินใจจัดหาไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนในเดือนกันยายน (2024) Microsoft ระบุว่าจะจัดซื้อไฟฟ้าจากโรงงาน Three Mile Island ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีชื่อเสียงจากเหตุการณ์ที่โรงงานต้องประสบกับภาวะหลอมละลายบางส่วนในปี 1979
ส่วนในปี 2022 Google กล่าวว่าจะลงทุน 100,000 ล้านเยน หรือ 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในญี่ปุ่นภายในปีนี้ (2024) สำหรับศูนย์ข้อมูลและการดำเนินการอื่นๆ โดย Pichai กล่าวว่าเขาเห็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในญี่ปุ่นที่กำลังแก่ชรา
“ในอนาคต เราจะมองหาทางเลือกในการลงทุนเพิ่มเติม” Pichai กล่าว ซึ่งศูนย์ข้อมูลที่ทำงานกับพลังงานหมุนเวียนเป็นตัวเลือกสำหรับกลยุทธ์นี้
สำหรับความกังวลทั่วโลกเกิดขึ้นเกี่ยวกับอำนาจผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่ง Pichai ระบุว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทขนาดใหญ่จะต้องถูกตรวจสอบ”
“ผมมองว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และเคารพซึ่งกันและกัน และค้นหากรอบงานหรือแนวทางแก้ไขร่วมกัน”
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 ต.ค.) คณะกรรมการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่นประกาศว่าได้เริ่มการสอบสวนตลาด AI เชิงสร้างสรรค์ ซึ่ง “เท่าที่ผมเข้าใจ มันเป็นการศึกษาวิจัย” Pichai กล่าว “และผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลสำหรับเทคโนโลยีสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อพลเมืองของประเทศของคุณที่พวกเขากำลังตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและเช่นเคย จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์”
ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนสิงหาคม (2024) ศาลแขวงของสหรัฐฯ ได้ตัดสินให้ Google แพ้คดีในคดีต่อต้านการผูกขาดที่เกี่ยวข้องกับการครองตลาดเครื่องมือค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่ง Pichai ระบุว่า “จะมีกรณีที่เราไม่เห็นด้วย และเราใส่ใจเกี่ยวกับนวัตกรรมและความสามารถในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และลูกค้าของเรา ดังนั้น หากเรารู้สึกว่าเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เราจะปกป้องตัวเอง”
IMCT News