25/3/2024
Larry C. Johnson อดีตนักวิเคราะห์ของCIA และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ มองการก่อการร้ายที่มอสโกในวันที่ 22มีนาคมที่ผ่านมาอย่างน่าสนใจว่าเป็นฝีมือของทหารรับจ้างที่อ่อนหัด และด้อยประสบการณ์
ทำไมเขาถึงเรียกพวกก่อการร้ายว่าเป็นทหารรับจ้าง? เพราะปรากฏว่าพวกนักฆ่าไม่ได้มีอุดมการณ์อะไร และได้รับการว่าจ้างด้วยค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย เพื่อทำหน้าที่สังหารผู้คนตามอำเภอใจในที่สาธารณะ ซึ่งมีพลเรือนมาชุมนุมกัน
จากหลักฐานวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา Johnsonมองว่า การวางแผนสำหรับปฏิบัติการนี้ไม่ใช่งานของผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ — เช่น พวกเขาใช้ยานพาหนะคันเดียวกันเพื่อเดินทางไปและกลับจากสถานที่โจมตี การเคลื่อนไหวภายในอาคารแสดงให้เห็นทักษะระยะประชิดที่ไม่ซับซ้อน พวกเขาไม่ได้มีระเบียบวินัยในการใช้ปืน ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีการฝึกยิงปืนไรเฟิลเพียงเล็กน้อย
รัสเซียกำลังเร่งการสอบสวนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีผู้ชมคอนเสิร์ตคนหนึ่งสามารถจัดการกับมือปืนคนหนึ่งได้ และเขาถูกจับทั้งเป็น นอกจากนี้ รัสเซียยังติดตามยานพาหนะที่หลบหนีหลังก่อเหตุร้าย และสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 4 คนขณะพยายามเดินทางข้ามประเทศไปยังยูเครน
สื่อตะวันตกกำลังพยายามอย่างหนักที่จะประโคมข่าวปฏิบัติการคร้ังนี้ว่าเป็นการโจมตีของ ISIS และปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นฝีมือของยูเครน Johnsonเขียนต่อไปว่า การซักถามผู้ต้องสงสัยเบื้องต้นเผยให้เห็นว่าพวกก่อการไม่สงบมีสติปัญญาที่จำกัด หรือพวกที่ไม่ฉลาด ซึ่งเล่าเรื่องไร้สาระว่าพวกเขาได้รับการติดต่อผ่านช่องทางTelegram โดยผู้ที่ไม่เปิดเผยตน ซึ่งเสนอที่จะจ่ายเงินอย่างงดงามให้กับพวกเขาจำนวน 5,000 ดอลลาร์ในปฏิบัติการณ์คร้ังนี้ นอกจากนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่ดีว่าทำไมผู้ร้ายกลุ่มทาจิกิสถานจึงมุ่งหน้าหนีไปที่ชายแดนยูเครน อย่างน้อยที่สุดก็แสดงให้เห็นความเชื่อว่าพวกเขาจะพบที่หลบภัยหากพวกเขาสามารถข้ามพรมแดนไปได้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนนักรบญิฮาดหัวแข็งที่กระตือรือร้นที่จะเสียสละตัวเองเพื่อที่จะไปสวรรค์
Johnson เชื่อว่า การกล่าวอ้างการก่อการร้ายของอิสลามนั้นน่าจะเป็นการออกแบบมาเพื่อหันเหความสนใจไปจากประเด็นอื่นๆ ที่อย่างน้อยบางคนในตะวันตกก็รู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้ เราจะอธิบายคำเตือนในวันที่ 7 มีนาคมของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกว่า ให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงไปงานต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตได้อย่างไร? กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกตัวอย่างรวดเร็วเพื่อปลดเปลื้องยูเครนสำหรับบทบาทใดๆ ในการโจมตีคร้ังนี้ ไฟยังคงโหมกระหน่ำที่Crocus ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ นั่นหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้นว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐมีข่าวกรองที่ระบุว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี แต่เห็นได้ชัดว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้กับรัสเซีย การพลาดพลั้งเพียงเท่านี้ก็กระตุ้นให้เกิดความสงสัยมากขึ้นในมอสโกเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชาติตะวันตก
Johnsonเขียนต่อไปว่า แต่เรารู้สิ่งหนึ่งที่แน่นอนอยู่แล้วว่า ตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการโจมตีในรูปแบบการก่อการร้ายต่อรัสเซียนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน เราจะเรียกอะไรอื่นได้อีกการโจมตีด้วยปืนใหญ่และขีปนาวุธต่อพลเรือนรัสเซียใน Donbass และใน Belgorod พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จัดหาโดยสหรัฐอเมริกาและประเทศ NATO สำคัญอื่น ๆ อย่างน้อยที่สุดนั่นทำให้มหาอำนาจตะวันตกเป็นอุปกรณ์เสริมในการก่อการร้าย
Johnsonมองต่อไปว่า การสังหารพลเรือนในมอสโกอย่างไร้เหตุผลเมื่อวันศุกร์นั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองในวงกว้าง และไม่ได้ทำให้โอกาสทางการทหารของยูเครนก้าวหน้าแต่อย่างใด สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ การโจมตีดังกล่าวทำให้ทั่วโลกแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อรัสเซียมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความคิดเห็นที่ประนีประนอมบางส่วนจากวอชิงตันโดยจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตก็คือ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย และไม่ได้ติดต่อกับวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อแสดงความเสียใจหรือแสดงความเห็นอกเห็นใจ ค่อนข้างตรงกันข้ามกับการกระทำของไบเดนหลังจากมีข่าวว่า Alexey Navalny ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของปูตินที่เสียชีวิต ไบเดนรีบแสดงความเสียใจแบบเสแสร้งต่อการเสียชีวิตของนาวาลนี
ดูเหมือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการโจมตีไม่ได้เกิดจากกระสุนปืน แต่เกิดจากการสูดควันเข้าไป ยังไม่เห็นรายงานที่อธิบายว่าเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนคาดเดาว่ามันเกิดจากระเบิดขวดโมโลตอฟ แต่รายละเอียดเหล่านั้นจะออกมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จากพฤติกรรมของประธานาธิบดีปูตินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ก็เป็นที่ชัดเจนเช่นกันว่ารัสเซียจะตอบโต้ผู้ที่รับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้
Johnsonไม่คิดว่าการก่อการร้ายครั้งนี้จะเปลี่ยนยุทธศาสตร์และแผนการทางทหารของรัสเซียสำหรับยูเครน ข่าวจากแนวหน้าแสดงให้เห็นว่ากองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบต่อไปตลอดแนวหน้าในดอนบาสส์ และกำลังผลักดันทหารยูเครนกลับไปยังแม่น้ำนีเปอร์ ตำแหน่งของกองทัพยูเครนเริ่มไม่มั่นคงมากขึ้นทุกวัน
เท่าที่ระบุตัวผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการและให้ทุนสนับสนุนการโจมตีครั้งนี้ ไม่มีข้อมูลเชิงลึกเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่สืบสวนชาวรัสเซียจะสามารถสืบหาที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวได้ ในกรณีที่หมายเลขซีเรียลของอาวุธปืนไม่ได้ถูกลบออกไป ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าชาติตะวันตกรู้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองจากยูเครน แต่ไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงใด ๆ นอกเหนือจากนี้ว่าเป็นปฏิบัติการที่ได้รับอนุมัติจากหน่วยข่าวกรองของยูเครน
เป็นไปได้ไหมที่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอังกฤษและ/หรืออเมริกันบางคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูง สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ การโจมตีครั้งนี้จะเสริมสร้างเจตจำนงของประธานาธิบดีปูติน กองทัพรัสเซีย และหน่วยข่าวกรองของรัสเซียในการยุติการแทรกแซงของ NATO ในยูเครน และความสามารถของผู้รับมอบงานของ NATO ในการโจมตีรัสเซีย ใครก็ตามที่อนุมัติปฏิบัติการคร้ังถือเป็นการคิดคำนวณผิดที่ผิดพลาดและจะต้องจ่ายในราคาที่แพง แต่ก็สมควรได้รับ
แล้วคุณคิดว่าอย่างไร? มันเป็นปฏิบัติการที่กำกับโดยตะวันตกหรือเป็นเรื่องของอันธพาลชั่วร้าย?
IMCT News
อ้างอิง : sonar21.com