Charles de Gaulle ชี้กลลวงของดอลลาร์ตั้งแต่ปี 1965
36 0C
Thailand
Thailand
24/5/2024
ผู้นำโลกที่เห็นวิกฤติดอลลาร์คนแรกคือ ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส Charles de Gaulle (1890-1970) เขาเป็นฮีโร่ของชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ปลดปล่อยฝรั่งเศสจากสงครามโลกครั้งที่สอง และผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐที่5ของฝรั่งเศส Fifth Republic of France ที่สำคัญเขาต้องการให้ฝรั่งเศสรักษาอำนาจอธิปไตยและความมั่นคงได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจจากพวกแองโกล/อเมริกัน จุดยืนของเดอ โกลแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบันที่ต้องการก่อสงครามกับรัสเซีย เพื่อปกป้องระบบการเงินของกลุ่มแองโกลอเมริกัน
ในเดือนกุมภาพันธ์1965 de Gaulleจัดแถลงข่าวใหญ่ เพื่อเตือนภัยอันตรายต่อโลกอันเนื่องมาจากที่ระบบการเงินโลกต้องพึ่งพาดอลลาร์ของสหรัฐฯประเทศเดียวในการทำหน้าที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก เขามองเห็นวิกฤติดอลลาร์ที่จะเกิดขึ้น และพูดชัดเจนว่าเงินที่แท้คือทอง ไม่ใช่ดอลลาร์กระดาษ
de Gaulleบอกว่าการที่หลายๆประเทศยอมรับดอลลาร์มีค่าเทียบเท่ากับทองในการทำการค้าขาย ทำให้สหรัฐฯได้เปรียบในการทำการค้า แต่ที่สำคัญมันทำให้สหรัฐฯสามารถก่อหนี้ได้ โดยที่ประเทศอื่นๆเสียประโยชน์ เพราะว่าสหรัฐฯจ่ายหนี้ได้เป็นเงินดอลลาร์ให้กับคู่ค้าที่ตัวเองขาดดุล แทนที่จะหักล้างหนี้สินด้วยทองคำ สหรัฐออกพันธบัตรในรูปดอลลาร์เพื่อที่จะจ่ายหนี้จากการขาดดุล แทนที่จะจ่ายเป็นทองคำ
หลังสงครามโลกครั้งที่2 มีการจัดตั้งระเบียบการเงินโลกใหม่ภายใต้Bretton Woods System โดยมีดอลลาร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก โดยที่ทุกประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยต้องผูกค่าเงินของตัวเองกับดอลลาร์ ถึงแม้ว่าBretton Woodsจะยังคงใช้ระบบมาตรฐานทองคำอยู่ คือเงินดอลลาร์ผูกกับทองคำที่อัตรา$35ต่อออนซ์อีกต่อหนึ่ง แต่นี้เป็นเพียงกลลวง เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วเงินสกุลต่างๆทั่วโลกควรที่จะผูกกับทองโดยตรงไปเลย ไม่จำเป็นต้องผูกกับดอลลาร์ สหรัฐฯสร้างกลลวงว่าดอลลาร์ผูกกับทองอีกต่อหนึ่ง ใครไม่ต้องการถือดอลลาร์ สามารถมาขึ้นทองกับเฟดเดอรัลรีเชิร์ฟได้
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ค่อยจะมีประเทศใดไปแลกดอลลาร์ที่ตัวเองถืออยู่เป็นทองสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯมีการก่อหนี้ หรือพิมพ์ดอลลาร์มากกว่าทองคำสำรองที่ใช้หนุนดอลลาร์ ภาระการใช้จ่ายในสงครามเวียดนาม รวมทั้งโครงการสวัสดิการสังคมทำให้สหรัฐฯมีวิกฤติทางการคลัง มีการก่อหนี้เกินความสามารถที่จะจ่ายหรือพิมพ์เงินมากกว่าทองคำสำรองที่มีอยู่ หลังสงครามโลกครั้งที่2 สหรัฐฯมีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก หรือ20,000ตัน แต่ปริมาณนี้ลดลงมาเรื่อยๆ เพราะถูกไถ่ถอน
ในปี1965 de Gaulleมองเกมออกแล้ว ว่าสหรัฐฯพิมพ์เงินมากกว่าทองคำที่ตัวเองมีอยู่ ประเทศอื่นๆเช่นฝรั่งเศสถือดอลลาร์ เท่ากับถือกระดาษ I owe you ถ้าหากทุกประเทศแลกดอลลาร์เป็นทองกับเฟด สหรัฐฯจะไม่มีทองให้ทุกประเทศแลกได้ พูดง่ายๆ สหรัฐฯจะผิดชำระหนี้
de Gaulle เรียกร้องให้ระเบียบการค้าโลกกลับไปหามาตรฐานทองคำที่แท้จริงเหมือนในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่1และ2 และในระบบการเงินโลกที่ไม่มีใครเถียงได้นี้ ต้องไม่มีประเทศใดเป็นตัวแทนที่แท้จริง ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีมาตรฐานใดจะดีไปกว่าทอง หมายความว่าทุกประเทศผูกค่าเงินตัวเองกับทองไปเลย ไม่ต้องผ่านดอลลาร์ เวลาขาดดุลการค้าระหว่างกันก็ให้ทำsettlementเป็นทองคำ
De Gaulle ต้องจ่ายราคาแพงจากนโยบายแข็งกร้าวกับอิทธิพลของดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1968 เขาถูกม็อบชุมนุมประท้วง ไม่รู้ใครเป็นสปอนเซอร์ แต่มันมีผลทำให้เขาต้องพ้นอำนาจลง ปิดฉากหนึ่งในผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
อีก6ปีต่อมา คำทำนายของde Gaulleเป็นจริง เมื่อสหรัฐฯยังคงก่อหนี้ไม่หยุดจากการใช้จ่ายที่เกินตัว และภาวะของสงครามเวียดนามที่ยังไม่จบ ทำให้ประเทศต่างๆไม่มั่นใจดอลลาร์ ฝรั่งเศสไม่ต้องการถือดอลลาร์อีกต่อไป ขอขึ้นเป็นทองจากเฟด แต่ในวันที่15 สิงหาคม 1971 ประธานาธิบดีนิกสันของสหรัฐฯประกาศการผิดชำระหนี้ (default) ด้วยการยกเลิกการผูกดอลลาร์กับทอง ปล่อยให้ดอลลาร์ลอยตัว และเฟดปิดหน้าต่างแลกทอง ให้ประเทศที่ถือดอลลาร์อยู่ถือดอลลาร์ต่อไป และให้ถือว่าดอลลาร์มีรัฐบาลสหรัฐการันตีความน่าเชื่อถือ นับตั้งแต่นั้นมาดอลลาร์เป็นเพียงกระดาษเปล่าๆ
ฝรั่งเศสพยายามขึ้นทองกับเฟด แต่ถูกปฏิเสธ และจำต้องยอมรับสภาพถือดอลลาร์กระดาษต่อไป เพราะว่าสหรัฐฯมีแสนยานุภาพทางทหารที่ฝรั่งเศสไม่สามารถจะต่อรองได้ ทุกวันนี้ฝรั่งเศสยิ่งจะยอมสหรัฐฯในทุกนโยบายหนักมากขึ้น ไม่มีสปิริตของde Gaulleหลงเหลืออยู่ในวิญญาณของผู้นำฝรั่งเศสในรุ่นหลังอีกเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาครง
สหรัฐฯผิดชำระหนี้ด้วยการเบี้ยวทอง ผลักดันให้โลกเข้าสู่มาตรฐานดอลลาร์ (dollar standard) ซึ่งเป็นศัพท์ที่ดูโก้เก๋ ทั้งๆที่ดอลลาร์ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรอีกต่อไป เพราะเป็นเพียงเงินกระดาษที่ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน เพียงแต่อ้างว่ามีfull faith & creditของรัฐบาลสหรัฐรับรอง โดยให้คำมั่นสัญญาว่า หนี้ของรัฐบาลสหรัฐจะได้รับการชำระจากรายได้ภาษี แต่ที่ไหนได้ รายได้จากภาษีไม่เคยพอกับหนี้ที่ก่อ ทำให้ต้องออกบอนด์ก่อหนี้ไปเรื่อยๆเพื่อจ่ายหนี้เก่าและหนี้ใหม่จนกลายเป็นวิกฤติหนี้ในเวลานี้ อันเห็นได้จากหลายประเทศเริ่มขายทิ้งดอลลาร์ไปถือทองคำ หรือทรัพย์สินที่จับต้องได้แทน และกลุ่มBRICSต้องการสร้างระบบการเงินโลกใหม่ออกจากดอลลาร์
By Thanong Khanthong, Editor
IMCT News
