'อิชิบะ' ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ญี่ปุ่น-ผู้นำ รบ.เสียงข้างน้อย
ขอบคุณภาพจาก news.vocofm.com
12/11/2024
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภาญี่ปุ่นให้ดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นต่อไป เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 พ.ย.) แม้ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ พรรค LDP ของเขาจะเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนที่แล้ว (ต.ค.2024) ก็ตาม ทำให้อิชิบะจะเป็นผู้นำรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ทั้งสภาสูงและสภาล่างของรัฐสภาญี่ปุ่น ลงมติเลือกให้อิชิบะเป็นนายกรัฐมนตรี แม้พรรค LDP และโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาล ไม่สามารถคว้าที่นั่งได้มากพอที่จะได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม (2024) แต่พรรคฝ่ายค้านก็ไม่สามารถร่วมมือกันสร้างเสียงข้างมากได้เช่นกัน
อิชิบะได้รับเลือกในการลงคะแนนเสียงรอบที่สองในสภาผู้แทนราษฎร โดยเอาชนะโยชิฮิโกะ โนดะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด หลังจากไม่มีหัวหน้าพรรคคนใดได้รับเสียงข้างมากในการลงคะแนนเสียงครั้งแรก อิชิบะได้รับคะแนนเสียง 221 เสียง และโนดะได้รับคะแนนเสียง 160 เสียง จากทั้งหมด 465 เสียงที่ลงคะแนนในการเลือกตั้งรอบสอง ในขณะที่คะแนนเสียงทั้งหมด 84 เสียงถูกตัดสินว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาบางคนลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ
สำหรับคณะรัฐมนตรีของอิชิบะ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนักจากคณะรัฐมนตรีชุดก่อน โดยคณะรัฐมนตรีชุดก่อนๆ รวมถึงกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงการคลังยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ ส่วนโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปเช่นกัน
สำหรับการเลือกตั้งอิชิบะ ซึ่งเป็นนักการเมืองอาวุโส ถือเป็นจุดสุดยอดของละครการเมืองในญี่ปุ่นที่ยาวนานกว่าหนึ่งเดือน หลังเขาได้รับเลือกเป็นประธานพรรค LDP เมื่อปลายเดือนกันยายน แทนที่อดีตนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งปฏิเสธที่จะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคสมัยที่สอง เพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเงินทุนทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกรัฐสภาของพรรค LDP หลายสิบคน
หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา (2024) อิชิบะได้ยุบสภาผู้แทนราษฎร และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อแสวงหาเสียงสนับสนุนจากประชาชน แต่กลยุทธ์ดังกล่าวกลับล้มเหลว เนื่องจากต้องเผชิญกับกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อพรรค LDP ในการจัดการกับเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว
เนื่องจากพรรค LDP และโคเมอิโตะไม่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มีอำนาจมากกว่า จึงต้องปกครองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย และต้องประสานงานกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อผ่านนโยบายสำคัญๆ กุญแจสำคัญของกลยุทธ์ที่จะก้าวไปข้างหน้าคือพรรคดีพีเอฟพี ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจนสามารถคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ 28 ที่นั่งเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 7 ที่นั่ง ซึ่งเท่ากับว่า เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ถึง 4 เท่า
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 พ.ย.) อิชิบะได้หารือกับโนดะและยูอิจิโร ทามากิ หัวหน้าพรรคดีพีเอฟพี ก่อนการประชุมสภานิติบัญญัติ โนดะเรียกร้องให้มีกระบวนการตัดสินใจที่โปร่งใสสำหรับนโยบาย โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง โดยอิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าว “สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างไรจึงจะมั่นใจได้ว่าประเทศจะสงบสุข และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน” ซึ่ง “ผมคิดว่าผมสามารถแบ่งปันความเชื่อนั้นกับสมาชิกพรรค DPFP และ CDP ได้”
หลังอิชิบะได้รับการเลือกตั้ง โนดะยอมรับว่าเขาไม่สามารถรวมพรรคฝ่ายค้านเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เขายินดีที่จะทำงานร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเสียงข้างน้อย โดยโนดะระบุว่า “ผมอยากค้นหาการเมืองรูปแบบใหม่เพื่อหาจุดร่วม” ระหว่างฝ่ายค้านและพรรคชั้นนำ
ขณะเดียวกัน ในเดือนนี้อิชิบะจะต้องเผชิญกับตารางงานทางการทูตที่ยุ่งวุ่นวายด้วยการประชุมสุดยอด G20 และกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ขณะที่อิชิบะเพิ่งพูดคุยทางโทรศัพท์กับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า (2025) ต่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน
IMCT News