ขอบคุณภาพจาก RT
28/8/2024
บริษัทหลายแห่งในจีนอาจเทขายสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินดอลลาร์ออกมาเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 34 ล้านล้านบาท หากธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ย จนทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก และอาจส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นถึง 10%
ซีอีโอของ Eurizon SLJ Capital บอกว่า สกุลเงินต่างๆ ในเวลานี้ อยู่ในภาวะเสี่ยงมากที่สุด เพราะไม่ได้มีมูลค่าตามที่มันควรจะเป็นไปทั่วทั้งตลาด และเงินหยวนกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ
ก่อนหน้านี้ บริษัทจีนหลายแห่ง ได้ขนเงินของตัวเองรวมกันกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 68 ล้านล้านบาท ไปแลกเป็นเงินดอลลาร์ แล้วเอาไปลงทุน หรือฝากไว้ในสหรัฐ ซึ่งให้ดอกเบี้ยดีกว่า การฝากเงินหยวนในจีน แต่เมื่อธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยลง ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ทรัพย์สินของคนจีนเหล่านี้ที่อยู่ในรูปดอลลาร์ ก็เหมือนมีมูลค่าลดน้อยลงทันที ดังนั้น พวกเขาอาจเทขายดอลลาร์ทิ้ง แล้วรีบแลกกลับเป็นเงินหยวน
กระบวนการตรงนี้ อาจได้เห็นสินทรัพย์มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 34 ล้านล้านบาท เฮโลจากสหรัฐ ไหลกลับเข้าประเทศจีนราวกับหิมะถล่ม เพราะถ้าสหรัฐลดดอกเบี้ย ส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างจีนกับสหรัฐก็น่าจะแคบเข้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องขนเงินไปฝากที่สหรัฐแล้ว อีกทั้งเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าอีกด้วยจากการลดดอกเบี้ย
การที่บริษัทเหล่านี้ รีบแลกทรัพย์สินเปลี่ยนกลับเป็นเงินหยวน ทำให้ความต้องการเงินหยวนมีมากขึ้น ดันให้เงินหยวนอาจแข็งค่าขึ้น 5% – 10% ซึ่งก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้
ซีอีโอของ Eurizon SLJ Capital คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยแรงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ถ้าตัวเลขต่างๆ ในสหรัฐยังคงดูซบเซา และสิ่งนี้ จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าไปเรื่อยๆ ส่วนเงินหยวนจีนก็จะแข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเมื่อวันจันทร์ ซื้อขายกันอยู่ที่ 7.12 หยวนต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นกว่า เดือนกรกฎาคม ที่เงินหยวนจีนอ่อนค่าลงมาเกือบ 7.28 หยวนต่อดอลลาร์
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของ Bank of China International Ltd. ก็มองว่า สถานการณ์นี้น่าจะคล้ายๆ กับความพังที่เกิดกับ yen carry trade เมื่อไม่นานมานี้ ที่นักลงทุนไปกู้ยืมเงินเยนจำนวนมาก ฉวยโอกาสที่ดอกเบี้ยญี่ปุ่นต่ำ แล้วเอาเงินก้อนนั้น ไปลงทุนในประเทศที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น สหรัฐ เพื่อกินส่วนต่างดอกเบี้ย แต่เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศขึ้นดอกเบี้ย แถมส่งสัญญาณจะปรับขึ้นต่ออีกเพื่อควบคุมการอ่อนค่าของเงินเยน ประกอบกับฝั่งสหรัฐก็กำลังจะลดดอกเบี้ย เงินเยนจึงแข็งค่าอย่างรวดเร็ว กลุ่มที่ทำ yen carry trade จึงรีบแลกเงินเยนกลับมาเพื่อเอาไปคืนที่กู้มา กระบวนการตรงนี้ สร้างความสะเทือนไปทั่วโลก ตั้งแต่หุ้น ไปจนถึงสกุลเงินเกิดใหม่อื่นๆ
และพวกเขาก็คาดว่า สิ่งนี้ กำลังจะเกิดกับเงินหยวนเช่นกัน เพราะที่ผ่านมา มีบริษัทจีนเอาเงินไปฝากที่สหรัฐเยอะมาก เพื่อหวังกินส่วนต่างดอกเบี้ย เนื่องจากดอกเบี้ยในจีนถูกกว่าดอกเบี้ยในสหรัฐ แต่เมื่อธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ย อาจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง บริษัทในจีนเหล่านี้ จึงต้องรีบแลกเงินหยวนกลับมา แล้วเอากลับเข้าประเทศจีนอีกครั้งหนึ่ง ความโกลาหลนี้อาจไม่เกิดขึ้นในทันทีที่ธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ย แต่ถ้าการลดดอกเบี้ยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความโกลาหลจะเกิดเลียนแบบ yen carry trade กลายเป็นคลื่นระลอกใหม่ที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดเอเชีย
แต่ ซีอีโอของ Eurizon SLJ Capital คาดว่า จีนคงไม่น่าจะทำให้เงินหยวนแข็งค่าเร็วเกินไป เพราะมันจะกระทบกับขีดการแข่งขันของภาคการส่งออก และบ่อนทำลายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
By IMCT News
อ้างอิงจาก https://finance.yahoo.com/news/fed-cuts-may-send-1-233000577.html