‘พันธมิตรอับราฮัม’ของเนทันยาฮูไม่สอดคล้องความจริง
36 0C
Thailand
Thailand
ขอบคุณภาพจาก Sputnik International
27/7/2024
ศ.ดร. เมห์ราน คัมราวา ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วิทยาเขตกาตาร์ วิเคราะห์ถึงการที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ร่างโครงร่างของพันธมิตรรูปแบบนาโต้ใหม่ระหว่างเทลอาวีฟ วอชิงตัน และประเทศอาหรับ ที่เรียกว่า 'พันธมิตรอับราฮัม' ซึ่งเขากล่าวว่าสามารถ “ต่อต้านภัยคุกคามจากอิหร่านที่เพิ่มมากขึ้น”นั้น ศ.ดร.คัมราวามองว่า ความหวังของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูที่จะนำประเทศต่างๆ เช่น บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอาจรวมถึงอียิปต์ เข้าร่วมในข้อตกลงรูปแบบนาโต้ใหม่ที่นำโดยอิสราเอลและสหรัฐฯ ที่เรียกว่า “พันธมิตรอับราฮัม” ไม่เพียงแต่ไม่สมจริงเท่านั้น แต่ยังไม่ใช่ความคิดริเริ่มอีกด้วย
“ฉันไม่คิดว่า [พันธมิตรระหว่างอิสราเอลและรัฐอ่าวอาหรับ บก.] จะเป็นสมมติฐานที่สมจริง เพราะซาอุดีอาระเบียทำให้ความสัมพันธ์ปกติกับอิหร่าน…บาห์เรนและอิหร่านได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการปรองดอง และแม้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะรักษาความสัมพันธ์กับอิสราเอลไว้ได้ แต่ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับอิหร่านไว้เช่นกัน” ศ.ดร.คัมราวากล่าว
ในสุนทรพจน์ของเขา เนทันยาฮูได้สรุป “วิสัยทัศน์สำหรับตะวันออกกลางโดยรวม” โดยยึดตามสิ่งที่สหรัฐฯ ทำหลังสงครามโลกครั้งที่สองโดยการสร้างนาโตและนำไปใช้กับตะวันออกกลาง กลุ่มที่เสนอควรรวมถึงสหรัฐฯ และอิสราเอล และ “ทุกประเทศที่มีสันติภาพกับอิสราเอล” หรือต้องการ “สร้างสันติภาพกับอิสราเอล” เนทันยาฮูกล่าว
ข้อเสนอของพันธมิตรอับราฮัม “ไม่ใช่เรื่องใหม่” ศ.ดร.คัมราวาเน้นย้ำ โดยตั้งข้อสังเกตว่าเนทันยาฮู “สนับสนุนเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว” โดยการผลักดันของอิสราเอลในการทำให้ความสัมพันธ์ปกติกับเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซียถือเป็นก้าวแรกในทิศทางนี้
ศ.ดร.คัมราวากล่าวว่า ปัจจุบันอิสราเอลสามารถพึ่งพาได้เพียงกองบัญชาการกลางของสหรัฐและวอชิงตันสำหรับอาวุธและการสนับสนุนอื่นๆ เท่านั้น นั่นเป็นเพราะ “การล็อบบี้ของอิสราเอลมีอำนาจมากในสหรัฐ โดยเฉพาะในรัฐสภา” โดยทั้งสองพรรคการเมืองและบุคคลสำคัญทั้งหมด ตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนและทรัมป์ไปจนถึงรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ต่างก็ประกาศตนเป็นพวกไซออนิสต์หรือแสดง “การสนับสนุนอย่างแข็งขัน” ต่ออิสราเอล
ในขณะเดียวกัน เนทันยาฮูยังคงจมอยู่กับความยุ่งเหยิงทางการเมืองที่ “ลึกซึ้ง” และสิ้นหวัง โดยต้องเผชิญกับ “แรงกดดันจากฝ่ายซ้าย [ของเขา] ที่ต้องการส่งตัวประกันกลับ...แรงกดดันจากกองทัพอิสราเอล ซึ่งกล่าวว่าขณะนี้ไม่สามารถนำตัวประกันที่เหลือกลับบ้านได้ด้วยการใช้กำลังอย่างต่อเนื่องและดำเนินสงครามต่อไป” รวมถึง “แรงกดดันจากฝ่ายขวาที่ต้องการกำจัดชาวปาเลสไตน์ให้หมดสิ้น”
ในสถานการณ์เช่นนี้ มีเพียงการดำเนินสงครามต่อไปและการใช้ “ตัวโกงอิหร่าน” เท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ ตามมุมมองของ ศ.ดร.คัมราวา
IMCT News
