สหรัฐฯ อาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนโดยไม่เลือกหน้า จากราคาสังกะสีที่ผันผวน

ขอบคุณภาพจาก Sputnik International

3-12-2024

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจของจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ขณะที่ราคาสังกะสีที่ผันผวนในช่วงนี้สะท้อนถึงแรงกดดันด้านอุปทานของโลหะสำคัญที่อาจส่งผลถึงปี 2025

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ราคาสังกะสีร่วงลง 2.5% ก่อนจะดีดตัวกลับและปิดตลาดที่ราคาสูงขึ้นเกือบ 5% บนตลาดโลหะลอนดอน (LME) อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 ธันวาคม ราคาสังกะสีก็ร่วงลงอีกครั้ง โดยปิดที่ 3,089.50 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลง 0.4%

คลื่นความปั่นป่วนในตลาดสังกะสีที่ผันผวนทำให้คาดเดาได้ว่าอาจเกิดผลกระทบตามมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% จากการที่ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียครองตลาดโลหะหายากของโลก โดยมีผลผลิตสังกะสีต่อปี 4.2 ล้านเมตริกตัน

หากเกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนขึ้นอีก อาจส่งผลกระทบต่อทั้งอุปทานและราคาของโลหะอุตสาหกรรมสำคัญชนิดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการต้านทานการกัดกร่อนของเหล็ก นอกจากนี้ สังกะสีออกไซด์ยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

สำหรับราคาสังกะสีที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดจากการถอนสังกะสีออกจาก LME ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบกว่าทศวรรษ ในตลาด Shanghai Futures Exchange สินค้าคงคลังลดลงมากกว่า 9,000 ตัน ซึ่งสะท้อนถึงการลดลงที่คล้ายคลึงกันในลอนดอน ซึ่งเกิดจากคำสั่งซื้อจาก Trafigura Group ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการค้าระดับโลก ซึ่งก็เป็นที่คาดการณ์ว่า ความต้องการสังกะสีบริสุทธิ์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 14.04 ล้านตันในปี 2025 ตามข้อมูลของ International Lead and Zinc Study Group

IMCT News

ที่มา https://sputnikglobe.com/20241202/zinc-price-swings-offer-taste-of-us-tariff-at-any-cost-gamble-targeting-china-1121068647.html