ประมวลความเคลื่อนไหว 'ทรัมป์' ด้านการต่างประเทศ

ขอบคุณภาพจาก Politico

10-2-2025

เข้าสู่สัปดาห์ที่สามของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์นั้นเต็มไปด้วยการกระทำที่สำคัญมากขึ้นจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทีมงานของเขา โดยเฉพาะในด้านการต่างประเทศ ตั้งแต่การประกาศเป้าหมายของสหรัฐเกี่ยวกับอนาคตของกาซา ไปจนถึงการลดจำนวนหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ลงอย่างมาก IMCT News ได้รวบรวมความเคลื่อนไหวดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไว้ ดังนี้

1. เสนอให้สหรัฐฯ 'เข้ายึดครอง' กาซา

ในการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐจะ "เข้ายึดครอง" และ "ครอบครอง" กาซา โดยทรัมป์เสนอให้พัฒนาพื้นที่ซึ่งถูกทำลายล้างหลังจากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเป็นเวลา 15 เดือนให้เป็น "ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง"

2. ให้เจ้าหน้าที่ USAID หลายพันคนพักงาน

พนักงานหลายพันคนของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศหลักของรัฐบาล ถูกวางแผนให้พักงานในเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) จนกระทั่งผู้พิพากษาได้สั่งระงับแผนของประธานาธิบดีทรัมป์ชั่วคราว ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่แผนดังกล่าวจะเกิดขึ้น

3. ขึ้นภาษีจีน-ถอนคำขู่ขึ้นภาษีเม็กซิโกและแคนาดา

ทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนและถอนคำขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 10% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 ก.พ.) แต่ทรัมป์ได้ชะลอการขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% เป็นเวลา 30 วัน หลังจากที่ผู้นำทั้งสองประเทศให้คำมั่นว่าจะเสริมความมั่นคงที่ชายแดน

4. คว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (6 ก.พ.) ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่บางส่วนของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวมีข้อจำกัดทางการเงินและวีซ่าสำหรับบุคคลและครอบครัวของพวกเขาที่ให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศต่อพลเมืองอเมริกันหรือพันธมิตร หลังศาลในกรุงเฮกได้ดำเนินคดีทั่วโลกในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม ล่าสุดศาลได้ออกหมายจับผู้บัญชาการกลุ่มฮามาสและเนทันยาฮูของอิสราเอลในข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามในฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลปฏิเสธ

5. สั่งโจมตีกลุ่ม IS ในโซมาเลีย

ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้สั่งโจมตีทางอากาศทางทหารต่อผู้วางแผนการโจมตีระดับสูงและบุคคลอื่นๆ จากกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของโซมาเลียเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (2025) โดยเขากล่าวว่า "ผู้ก่อการร้ายจำนวนมาก" ถูกสังหาร "โดยไม่ได้ทำร้ายพลเรือนแต่อย่างใด"

6. ถอนตัวจากสถาบันของสหประชาชาติ

ทรัมป์ยุติการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในสถาบันของสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น เมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.) ที่ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากหน่วยงานหลักของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ หรือ UNRWA รวมถึงจะไม่เข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) อีกต่อไป และสหรัฐฯ จะดำเนินการทบทวนการเป็นสมาชิกในองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ภายใน 90 วัน นอกจากนี้ ทรัมป์ก็ยังถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อปลายเดือนที่แล้ว (ม.ค.2025) อีกด้วย

7. ส่งผู้ถูกเนรเทศไปยังกวนตานาโม

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 ก.พ.) สหรัฐฯ ได้ส่งผู้อพยพกลุ่มแรกไปยังอ่าวกวนตานาโม หลังจากที่ทรัมป์ประกาศแผนขยายการกักขังผู้อพยพที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในคิวบา ซึ่งกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) กล่าวว่าผู้ถูกกักขังเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Tren de Aragua ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมในเรือนจำของเวเนซุเอลา

8. เรียกร้องให้ยูเครนจัดหาทรัพยากรแร่ธาตุหายาก

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ก.พ.)  ทรัมป์กล่าวว่าเขาต้องการให้ยูเครนรับประกันการจัดหาแร่ธาตุหายากเพิ่มเติม เพื่อแลกกับเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับรัสเซีย จากการที่ยูเครนมีแหล่งแร่ยูเรเนียม ลิเธียม และไททาเนียมในปริมาณมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้

9. ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีส

การถอนตัวจากข้อตกลงปารีสอีกครั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในสมัยที่สอง ในวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา (2025) โดยให้เหตุผลว่า ข้อตกลงปารีสกำหนดภาระทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ

10. พยายามเข้ายึดครองคลองปานามา

โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นวาระที่สองในตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยการเพิ่มแรงกดดันต่อปานามา โดยขู่ว่าจะ "ยึด" คลองปานามาคืน จากข้อกล่าวหาที่ว่า ปานามายอมเสียการควบคุมเส้นทางน้ำสำคัญให้กับจีน

11. พยายามเข้ายึดครองกรีนแลนด์

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าความปรารถนาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยึดครองกรีนแลนด์ รวมถึงคลองปานามา เป็นผลมาจากผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสืบเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมและอิทธิพลของจีนในอาร์กติกและละตินอเมริกา

IMCT News

ที่มา

https://www.bbc.com/news/articles/cjdep9j31l8o

https://edition.cnn.com/2025/01/21/world/world-health-organization-trump-withdraw-explainer-intl/index.html

https://cei.org/blog/were-out-of-the-paris-agreement-again-how-trump-can-make-it-stick/

https://edition.cnn.com/2025/02/07/china/panama-canal-china-trump-explainer-intl-hnk/index.html

https://apnews.com/article/rubio-trump-panama-canal-greenland-cf950b07453035d3e25d23807bc136e8