.
![](../image/news/content_20250208084718.jpg)
แผนที่ชี้ชัด! 53% แร่หายากยูเครนอยู่ในพื้นที่รัสเซียยึดครอง ทรัมป์'ส่งสัญญาณขอแบ่งปัน
8-2-2025
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการเรียกร้องให้ยูเครนชำระคืนความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารมูลค่าเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการให้สิทธิสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งแร่หายากมูลค่ามหาศาลของประเทศ
ทรัมป์กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ต้องการ "ปรับสมดุล" ความสัมพันธ์กับยูเครน พร้อมระบุว่า "เรากำลังเจรจากับยูเครนเกี่ยวกับแร่หายากที่มีมูลค่าสูง และกำลังมองหาข้อตกลงที่จะให้พวกเขาใช้แร่หายากและทรัพยากรอื่นๆ เป็นหลักประกันสำหรับความช่วยเหลือที่เรามอบให้"
ทางด้านเครมลินรีบฉวยโอกาสวิจารณ์ว่า คำกล่าวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เคียฟโดยไม่มีเงื่อนไขอีกต่อไป ก่อนจะเสริมอย่างคาดเดาได้ว่า รัสเซียคัดค้านการที่ทรัมป์จะให้ความช่วยเหลือใดๆ แก่ยูเครน
จากการสำรวจพบว่า ยูเครนครอบครองแหล่งแร่ธาตุสำคัญที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป โดยเฉพาะลิเธียมและไททาเนียม ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ นิตยสาร Forbes Ukraine ประเมินมูลค่าทรัพยากรเหล่านี้สูงถึง 12 ล้านล้านปอนด์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี พยายามพัฒนาทรัพยากรเหล่านี้มาหลายปี โดยในปี 2021 ได้เสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติ แต่แผนดังกล่าวต้องระงับลงเมื่อรัสเซียบุกเต็มรูปแบบในปีถัดมา อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีได้บรรจุการพัฒนาแร่ธาตุเหล่านี้ไว้ในแผนชัยชนะที่จัดทำขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยคาดการณ์ว่าทรัมป์ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเจรจาต่อรองทางธุรกิจอาจสนใจประเด็นนี้
เอกสารของรัฐบาลยูเครนระบุว่า ประเทศมีแหล่งแร่อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ถึง 117 ชนิด จาก 120 ชนิดที่ใช้มากที่สุด กระจายอยู่ในแหล่งสำรวจกว่า 8,700 แห่ง รวมถึงลิเธียมปริมาณครึ่งล้านตันที่ยังไม่ได้ขุด ทำให้ยูเครนเป็นเจ้าของแหล่งลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป แร่เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
อย่างไรก็ตาม การรบุกยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่เพียงทำให้แผนพัฒนาแร่ธาตุของยูเครนต้องชะงัก แต่ยังส่งผลให้พื้นที่ที่อุดมด้วยทรัพยากรถูกทำลายและถูกยึดครอง
ข้อมูลจากกลุ่ม UnitedMedia 24 ของยูเครนแสดงให้เห็นว่า ทรัพยากรแร่มูลค่ากว่า 6 ล้านล้านปอนด์ หรือราว 53% ของทรัพยากรทั้งประเทศ อยู่ใน 4 ภูมิภาคที่รัสเซียผนวกดินแดนอย่างผิดกฎหมายเมื่อกันยายน 2022 ได้แก่ ลูฮันสค์ โดเนตสค์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน แม้ว่าเคอร์ซอนจะมีแร่ธาตุไม่มากนัก
นอกจากนี้ คาบสมุทรไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกและยึดครองตั้งแต่ปี 2014 ยังมีแร่ธาตุมูลค่าราว 165,000 ล้านปอนด์ ขณะที่ภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับโดเนตสค์และซาโปริซเซียที่ถูกยึดครองส่วนใหญ่ และอยู่ในแนวรุกของกองทัพรัสเซีย มีทรัพยากรแร่มูลค่า 2.8 ล้านล้านปอนด์
แม้ว่าข้อจำกัดในการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียอาจทำให้การยึดครองภูมิภาคดังกล่าวเป็นไปได้ยาก แต่การทำเหมืองในพื้นที่ก็มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากอยู่ใกล้แนวทหารรัสเซีย โดยเฉพาะแหล่งแร่ลิเธียมที่ชานเมือง Shevchenko ในโดเนตสค์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Velyka Novosilka ที่รัสเซียเพิ่งยึดได้เพียง 10 ไมล์เท่านั้น
---
IMCT NEWS