กูรู ตปท. สหรัฐฯ ชี้ NATO -สหรัฐฯ ส่อแพ้สงครามยูเครน สอดคล้องกับมุมมองอดีต รมต.ยูเครน
กูรูสหรัฐฯ เตือนวิกฤตยูเครนอาจถึงจุดเปลี่ยน 'ปูติน' เล็งใช้นิวเคลียร์หากถูกบีบ-NATO-สหรัฐฯส่อแพ้ยับ
30-11-2024
ศาสตราจารย์จอห์น เมียร์ไชเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากสหรัฐฯ วิเคราะห์ในรายการ Judging Freedom เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2024 ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มองว่าชาติตะวันตกเป็นภัยคุกคามถึงชีวิตและการดำรงอยู่ของรัสเซีย แม้อาจมีข้อสงสัยในช่วงแรกของความขัดแย้ง แต่ปัจจุบันเขาไม่มีข้อกังขาในประเด็นนี้อีกต่อไป
'ปูตินเข้าใจดีว่าต้องเล่นเกมแข็งกับตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ เพราะรัสเซียกำลังได้เปรียบในสนามรบ และไม่ต้องการให้มีอะไรมาขัดขวางความสำเร็จในการรบที่แนวหน้าตะวันออก' เมียร์ไชเมอร์กล่าว
นักวิชาการชื่อดังระบุว่า แม้ปูตินจะไม่ต้องการตอบโต้รุนแรงเกินไป แต่เขาตระหนักดีว่าอาจจำเป็นต้องทำเช่นนั้น และเข้าใจว่าในบางจุดอาจต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ แม้โอกาสจะต่ำมากในปัจจุบัน แต่ก็เป็นความเป็นไปได้ที่แท้จริง
'สิ่งที่ต้องจำไว้คือ นาโตจะแพ้สงครามครั้งนี้ สหรัฐฯ จะแพ้สงครามครั้งนี้ และจะเป็นความพ่ายแพ้ที่เลวร้าย เราสิ้นหวังอย่างชัดเจนในตอนนี้ และคำถามคือ ตะวันตกและสหรัฐฯ ที่กำลังสิ้นหวังจะทำอะไร?' เมียร์ไชเมอร์ตั้งคำถาม
ผู้เชี่ยวชาญยังวิเคราะห์ว่า ปูตินเข้าใจดีว่าสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการที่ยกระดับความขัดแย้งในทางที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ เอง 'ผมคิดว่าเขามีผลประโยชน์ที่จะต้องควบคุมบันไดแห่งการยกระดับความขัดแย้ง ป้องกันไม่ให้เราปีนบันไดนั้นสูงเกินไป ในขณะที่เขายังคงรักษาความได้เปรียบในสนามรบ' เมียร์ไชเมอร์กล่าวทิ้งท้าย
----
ที่มา https://youtu.be/Iev9zAHCa7Q
https://x.com/nxt888/status/1862548276865634447
----------------------------------
อดีต รมต.ต่างประเทศยูเครนย้ำ ยูเครนจะเป็นฝ่าย ‘แพ้สงคราม’
ขอบคุณภาพจาก Eunews
30-11-2024
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิโทร คูเลบา กล่าวกับ Financial Times ว่า ยูเครนไม่มีทางที่จะได้เปรียบรัสเซีย และจะ “แพ้สงคราม” หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป พร้อมเสริมว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กำลังกลัวสงครามนิวเคลียร์มากเกินไป จนไม่กล้าให้เคียฟมีอาวุธที่จำเป็นเพื่อชัยชนะ
“วันนี้เรามีวิธีการและเครื่องมือที่จะพลิกสถานการณ์และเปลี่ยนวิถีของสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่? ไม่ เราไม่มี” คูเลบากล่าวในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) พร้อมเสริมว่า “และหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะแพ้สงคราม”
ความเห็นของคูเลบามีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีดินแดนรัสเซียที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ แม้ว่าจะเป็นการลุกลามอย่างรุนแรง แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว “ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อแนวทางการปฏิบัติการรบ” และจะบรรลุเป้าหมายทางการทหารทั้งหมดของมอสโกให้ได้
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา (2024) คูเลบาลาออกจากตำแหน่งหัวหน้านักการทูตของเคียฟ ท่ามกลางการกวาดล้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนมากโดยโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งก่อนจะลาออก คูเลบาได้ยืนกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ยูเครนสามารถได้รับชัยชนะในสนามรบได้ ตราบใดที่ผู้สนับสนุนจากตะวันตกของประเทศจะส่งมอบอาวุธหนักในปริมาณที่เพียงพอ
การเรียกร้องอาวุธและเงินของคูเลบามักจะรุนแรง เช่น เมื่อเขาบอกกับแอนนาเลนา แบร์บอค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ให้ส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล เนื่องจากเป็นเพียง “เรื่องของเวลา” ก่อนที่เธอจะ “ทำอยู่ดี”
“พวกเราชาวยูเครนโชคดีที่โจ ไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2022 เพราะถ้าเป็นคนอื่น สิ่งต่างๆ คงจะแย่ลงสำหรับเรา” คูเลบากล่าว แต่ก็อ้างว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชะลอการส่งมอบระบบอาวุธบางประเภท เนื่องจาก "ตรรกะสงครามเย็น" ของเขาทำให้เขากลัวเกินไปที่จะยั่วยุสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย
ภายใต้การนำของไบเดน สหรัฐฯ ได้จัดสรรเงิน 131,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับยูเครน ตามตัวเลขที่กระทรวงกลาโหมเผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ (พ.ย.2024) ขณะที่ตามข้อมูลของสถาบันคีลเพื่อเศรษฐกิจโลกของเยอรมนี ซึ่งติดตามความช่วยเหลือด้านการทหาร เศรษฐกิจ และมนุษยธรรมไปยังเคียฟ ระบุว่ามีการโอนไปแล้วเกือบ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง ไบเดนได้ขอให้รัฐสภาอนุมัติการใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับยูเครนอีก 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่ง Politico อธิบายว่าเป็น "การคาดเดาที่ไกลเกินเอื้อม"
แม้ว่าการอนุมัติเงินช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นี้จะได้รับอนุมัติแล้ว แต่ยูเครนก็ยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังพล หนังสือพิมพ์ The Economist รายงานเมื่อสัปดาห์นี้ว่า เคียฟสูญเสียทหารไปแล้วเกือบครึ่งล้านนายนับตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับตัวเลขอย่างเป็นทางการของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ขณะที่ AP รายงานเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) ว่า ทำเนียบขาวเรียกร้องให้เคียฟเริ่มเกณฑ์ทหารวัยรุ่นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่ามีรายงานว่าผู้หลบหนีทหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารของยูเครนหันไปใช้วิธีการที่โหดร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การใช้กลุ่มนักข่าวแทน
IMCT News
ที่มา https://www.rt.com/russia/608430-ukraine-lose-war-kuleba/