ความสัมพันธ์สหรัฐฯ -อินเดียอยู่ในภาวะถดถอย จากพันธมิตรสำคัญสู่ความหวาดระแวง
2-11-2024
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สหรัฐฯ ดำเนินนโยบายสองมาตรฐานอย่างชัดเจน คำตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ไม่มีผลบังคับใช้กับสหรัฐฯ อิสราเอล และพันธมิตร ขณะที่บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังเปิดเผยว่าชาติตะวันตกใช้ยูเครนเป็น "สงครามตัวแทน" สู้กับรัสเซีย
S.L. Kanthan นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ นำเสนอมุมมองเชิงลึกต่อความสัมพันธ์สหรัฐ-อินเดียและการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจโลก โดยวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินนโยบายของสหรัฐฯ ว่าถูกขับเคลื่อนโดย "มาเฟียภูมิรัฐศาสตร์" ที่ขาดทั้งศีลธรรมและการควบคุมตนเอง พร้อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจ แต่กลับขาดทั้งความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ มีเพียงกลยุทธ์เดิมๆ ที่นำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การขาดนวัตกรรมดังกล่าวส่งผลให้ "การปฏิวัติสี" ของสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวในหลายประเทศ ทั้งฮ่องกง ไทย เบลารุส คาซัคสถาน และจอร์เจีย แม้จะประสบความสำเร็จในบังกลาเทศ เนื่องจากรัฐบาลไม่กล้าสั่งห้ามองค์กรอย่าง NED/NDI
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สหรัฐฯ เคยชินกับการโกหกและใช้มาตรฐานสองในนโยบายต่างประเทศ เห็นได้จากการอ้างเรื่องอาวุธทำลายล้างสูงในอิรักและการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ยุคแห่งการหลอกลวงกำลังสิ้นสุดลง เมื่อสื่อรัสเซีย จีน และนักข่าวอิสระทั่วโลก รวมถึงนักวิเคราะห์ชาวอเมริกันอย่าง Scott Ritter เริ่มเปิดโปงความจริง
อิทธิพลทางทหารของสหรัฐฯ และยุโรปก็กำลังถดถอย สะท้อนผ่านการที่ประเทศในแอฟริกาอย่างชาด เซเนกัล และไนเจอร์ เริ่มปลดแอกจากอาณานิคมตะวันตก กลุ่มฮูตีโจมตีเรือรบและโดรนอเมริกัน ฮิซบุลเลาะห์บีบให้อิสราเอลต้องหยุดยิง และที่สำคัญคือความสำเร็จของรัสเซียในการต่อกรกับนาโต้
การพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Orshenik" ของรัสเซีย ที่ประธานาธิบดีปูตินเปรียบเสมือนอุกกาบาตพุ่งชนโลก แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารที่เหนือกว่าตะวันตก
ด้านจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจการผลิต สามารถผลิตขีปนาวุธและโดรนได้มากกว่าสหรัฐฯ ในขณะที่สหรัฐฯ ไม่สามารถผลิตอาวุธได้โดยปราศจากชิ้นส่วนจากจีน ยุทธศาสตร์การใช้ประเทศพันธมิตรอย่างฟิลิปปินส์หรือญี่ปุ่นเป็นตัวแทนสู้รบกับจีนก็กำลังจะล้มเหลว
Kanthan เสนอแนะว่า อินเดียควรดำเนินการสองประการสำคัญ:
ประการแรก ยึดมั่นในหลักการความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ เสริมสร้างความร่วมมือในกลุ่ม BRICS และสนับสนุนแนวคิดโลกหลายขั้วอำนาจ โดยมุ่งพัฒนาความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับรัสเซียและจีน แม้จะมีความขัดแย้งในบางประเด็น แต่ไม่ควรปิดกั้นโอกาสความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
ประการที่สอง ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันมีอิทธิพลสูงในตลาดอินเดีย จนนำไปสู่ความเสี่ยงด้านการสอดแนมข้อมูล ดังกรณีการฟ้องร้องบริษัท Adani อินเดียควรมุ่งพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีของตนเอง ตามแบบอย่างความสำเร็จของจีนที่สร้าง Alibaba, Baidu, ByteDance และ Huawei
นักวิเคราะห์รายนี้มองว่า การที่สหรัฐฯ ผลักดันให้จีนและรัสเซียใกล้ชิดกันมากขึ้น และทำให้อินเดียหันไปสู่กลุ่มพันธมิตรยูเรเซีย เป็นความผิดพลาดเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ ทั้งที่สหรัฐฯ มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับอินเดีย แต่กลับเลือกดำเนินนโยบายที่ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
ท้ายที่สุด Kanthan เชื่อว่าการสิ้นสุดของการครองอำนาจนำโดยตะวันตกและศตวรรษอเมริกันกำลังใกล้เข้ามา อินเดียจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการวางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ อย่างเปิดเผย แต่ต้องรักษาผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ
---
ที่มา https://sputniknews.in/20241130/us-india-relations-in-a-downward-spiral-8474397.html