Thailand
เอเชียใต้ปรับดุลอำนาจครั้งใหญ่ 'บังกลาเทศหันหาปากีสถาน' จีน-อินเดีย ลดขัดแย้ง 'ตาลีบันเปิดรับอินเดีย'
5-2-2025
ภูมิภาคเอเชียใต้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งสำคัญในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เริ่มจากการพ้นอำนาจของนางชีค ฮาซินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศในเดือนสิงหาคม ตามด้วยข้อตกลงชายแดนระหว่างจีนกับอินเดียในเดือนตุลาคม และการพบปะระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศในดูไบเมื่อเดือนที่ผ่านมา
การจากไปของนางฮาซินา อดีตพันธมิตรสำคัญของอินเดีย เปิดโอกาสให้ปากีสถานขยายอิทธิพลในบังกลาเทศ สะท้อนผ่านการผ่อนปรนกฎวีซ่าสำหรับชาวปากีสถาน การเปิดเส้นทางเดินเรือตรงระหว่างท่าเรือการาจีกับจิตตะกอง และการลดข้อจำกัดทางการค้า นอกจากนี้ บังกลาเทศยังเตรียมเข้าร่วมการซ้อมรบทางเรือ Aman ของปากีสถานในเดือนนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแน่นแฟ้นขึ้นผ่านการเยือนระดับสูง ทั้งการเยือนของนายอิชาค ดาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน และนายอาซิม มาลิก หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร (ISI) รวมถึงการพบปะหลายครั้งระหว่างนายมูฮัมหมัด ยูนุส หัวหน้ารัฐบาลรักษาการบังกลาเทศ กับนายเชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน
ขณะเดียวกัน ข้อตกลงชายแดนจีน-อินเดียช่วยคลี่คลายความตึงเครียดหลังการปะทะรุนแรงในปี 2563 โดยอนุญาตให้กลับมาลาดตระเวนและทำปศุสัตว์ในพื้นที่พิพาทแถบลาดักห์ตะวันออกและอักไซชิน แม้จะไม่ได้แก้ไขข้อพิพาทชายแดนทั้งหมดและยังคงมีกำลังทหารประจำการจำนวนมาก แต่สะท้อนความพยายามของทั้งสองฝ่ายในการสร้างกรอบความสัมพันธ์ที่มั่นคง
ในด้านอัฟกานิสถาน กลุ่มตาลีบันพยายามหลุดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยวระหว่างประเทศ โดยต้องการให้อินเดียร่วมเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาเช่นเดียวกับจีนและรัสเซีย โดยเฉพาะหลังสหรัฐฯ ประกาศยุติความช่วยเหลือ ล่าสุดได้แต่งตั้งกงสุลใหญ่รักษาการในมุมไบ หลังอินเดียเปิดสถานทูตในกรุงคาบูลอีกครั้งในปี 2565 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากในอดีตอัฟกานิสถานเคยเป็นฐานยุทธศาสตร์ของปากีสถานในการต่อกรกับอินเดีย
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนการปรับตัวของทุกประเทศในภูมิภาค โดยบังกลาเทศพยายามสร้างดุลกับทั้งอินเดียและปากีสถาน ขณะที่อัฟกานิสถานหันมาใกล้ชิดอินเดียและปรับสมดุลกับปากีสถาน ส่วนจีนมุ่งรักษาเสถียรภาพรอบประเทศเพื่อเตรียมรับมือการแข่งขันกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ในสมัยที่สอง
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved